กบน.เคาะตรึงราคา แอลพีจี ถังละ 423 บาทต่ออีก 1 เดือนจากเดิมสิ้นสุด 31 ส.ค. เป็นสิ้นสุด 30 ก.ย. โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันดูแล ย้ำการลดราคาพลังงานภาพรวม ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลใหม่มาพิจารณารายละเอียดมั่นใจกรอบวงเงินกู้ยังเพียงพอ แย้มแนวทางดูแลราคาดีเซลจำเป็นต้องลดภาษีสรรพสามิตช่วยอีกทาง
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ต่อไปอีก 1 เดือน หรือเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย.นี้ โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันในการดูแลเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน
สำหรับราคาแอลพีจีคาร์โก้ ในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นโดยเมื่อเดือน ก.ค.เฉลี่ยที่ 442.93 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้น 26.98 เหรียญต่อตัน และค่าเฉลี่ยระหว่างวันที่ 7-18 ส.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 561.72 เหรียญต่อตัน และกองทุนน้ำมันในปัจจุบันยังคงชดเชยราคาแอลพีจีอยู่ที่ 4.397 บาทต่อ กก.แต่ภาพรวมเมื่อรวมรายได้กับกองทุนน้ำมัน 1ที่ได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ แล้วรายได้ยังคงเป็นบวก วันละ 910,000 บาท ซึ่งจากการประเมินหากราคาแอลพีจีตลาดโลกขยับไปสูงถึง 600 เหรียญต่อตันจะทำให้ภาพรวมยังต้องจ่ายเงินชดเชย
ในปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันติดลบ 55,091 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชี แอลพีจี ติดลบ 44,716 ล้านบาท บัญชีน้ำมันติดลบ 10,375 ล้านบาท แต่กองทุนน้ำมันยังมีกรอบวงเงินกู้ที่บรรจุไว้ในหนี้สาธารณะแล้ว 110,000 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 55,000 ล้านบาทและเหลือวงเงินอีก 55,000 ล้านบาท ที่ยังสามารถรักษาเสถียรภาพราคาแอลพีจีและราคาน้ำมันดีเซลต่อไปได้ ภายใต้ราคาพลังงานโลก ที่คาดว่าปีนี้จะไม่ร้อนแรงโดยไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่มเติม
“หากนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะลดราคาแอลพีจี และราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ก็ต้องรอความชัดเจนจาก รมว.พลังงานคนใหม่ ซึ่งสกนช.ได้เตรียมรายละเอียดไว้แล้ว โดยแผนการดูแลราคาน้ำมัน ก็คงจะต้องเสนอในเรื่องของการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลรวมถึงต้องดูราคาน้ำมันตลาดโลก เพื่อประกอบกับเงินกู้ที่มีอยู่”
นายพรชัย รุจิกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สกนช. กล่าวว่า กรอบวงเงินที่กำหนดไว้ดูแลราคาแอลพีจี ที่ไม่เกิน 48,000 ล้านบาท เมื่อมีการขยายอายุมาตรการตรึงราคาต่อไปอีก 1 เดือน หรือสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. วงเงินที่มีอยู่ ก็ยังอยู่ในกรอบดังกล่าวไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็ยังต้องติดตามราคาพลังงานตลาดโลกใกล้ชิดเนื่องจากช่วงปลายปี ที่จะมีราคาสูงขึ้น แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าราคาจะไม่สูงเหมือนกรณีปลายปี 2565
“ขณะนี้กองทุนน้ำมัน ใช้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล 6 บาทกว่าต่อลิตร และยอมรับว่าราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลก เคลื่อนไหวที่ 120 เหรียญต่อบาร์เรลสูงกว่าที่เคยประมาณการไว้ หากราคายืนอยู่ระดับดังกล่าวก็จะทำให้เงินไหลออกจากกองทุนน้ำมัน 10,000 ล้านบาทต่อเดือน แต่หากเทียบกับเดือน มิ.ย.2565 แล้วเราก็เคยอุดหนุน 20,000 ล้านบาทต่อเดือนมาแล้ว”.