นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ธพ.ได้คาดการณ์การใช้น้ำมัน 6 เดือนแรกของปีนี้ ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% ปัจจัยหลักๆมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยว โดยกลุ่มเบนซินคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.2% น้ำมันอากาศยาน (JET A1) เพิ่มขึ้น 30.6% ส่วนน้ำมันดีเซลจะปรับตัวลดลง 1.9% เนื่องจากภาคการส่งออกไทยชะลอตัว ทำให้การใช้ภาคขนส่งมีแนวโน้มปรับลดลง ขณะที่ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพิ่มขึ้น 5.7% โดยเฉพาะการปรับขึ้นของภาคขนส่งและปิโตรเคมีที่เริ่มจะฟื้นตัว ขณะเดียวกันตลอดทั้งปีนี้ คาดว่าการใช้น้ำมันจะเติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับจำนวนสถานีบริการ แอลพีจี ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 1,628 แห่ง โดยปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 4 แห่ง และเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.2565 อยู่ที่ 1,601 เพิ่มขึ้น 27 แห่ง โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ปั๊มแอลพีจีเริ่มสูงขึ้นเล็กน้อยมาจากการใช้ในภาคขนส่งที่สูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันในภาพรวมเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล สะท้อนจากการใช้แอลพีจี 6 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 17.69 ล้านกิโลกรัม (กก.) ต่อวันลดลง 1.4% โดยเป็นการปรับลดลงทั้งภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม ปิโตรเคมี ยกเว้นภาคขนส่งที่เพิ่มขึ้น 7.6%
“กรณีที่มีการร้องเรียนลักลอบนำถังแอลพีจีภาคครัวเรือนไปเติมในปั๊ม แอลพีจีที่ถือว่าผิดกฏหมาย ธพ.ได้มีการแก้ไขปัญหาด้วยการร่วมมือกับทุกฝ่ายและกำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งปฏิบัติตามมาตรการที่ร่วมมือกันอย่างเคร่งครัด โดยได้มีการเพิ่มบทลงโทษไปแล้ว โดยให้กำหนดเป็นโทษสูงสุดปรับทันที 5 0,000 บาท และอยู่ระหว่างการเตรียมระเบียบในการให้รางวัลนำจับกับประชาชนที่แจ้งเบาะแส โดยจะให้ 25% ของค่าปรับหรือ 6,250 บาท”.