ดราม่าเติมน้ำมันไม่เต็มลิตร! จี้ปั๊มหากใช้หัวจ่ายไม่ถูกต้องเจอลงดาบแน่

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้า ภายใน (คน.) เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า จะเชิญผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันในประเทศทุกราย เช่น PTT Station, บางจาก, PT, เอสโซ่, เชลล์, คาลเท็กซ์ เป็นต้น มาหารือ เพื่อกำชับให้ผู้ให้บริการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันและอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพปกติ ห้ามใช้หัวจ่ายที่ชำรุด หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุการณ์ผู้บริโภคเข้าไปเติมน้ำมัน แล้วได้น้ำมันไม่เต็มลิตร เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมจากการเติมน้ำมัน

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานกลางชั่งตวงวัดและสำนักงานสาขาชั่งตวงวัด จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบปั๊มน้ำมันทั่วประเทศให้เข้มงวดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โดยหากตรวจสอบพบปั๊มใดใช้หัวจ่ายไม่ถูกต้อง หรือไม่มีเครื่องหมายรับรองจากกรม จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผลการตรวจสอบในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 66 ตรวจสอบปั๊มทั่วประเทศ 7,827 ครั้ง 172,156 หัวจ่าย พบว่าถูกต้อง 171,354 หัวจ่าย ผิด 802 หัวจ่าย และได้เปรียบเทียบปรับปั๊มน้ำมันแล้ว 45 ราย

ส่วนสถานการณ์ราคาข้าวสารบรรจุถุงในประเทศหลังจากอินเดียประกาศห้ามส่งออกข้าวขาวชั่วคราว จากการติดตาม พบว่า ยังปกติ แม้ช่วงนี้ จะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับราคาข้าวถุงปรับขึ้น แต่หลายห้างจัดโปรโมชันลดราคา เช่น ข้าวหอมมะลิ เหลือถุงละ 165 บาท ในบางจังหวัดขายถุงละ 157-159 บาท ส่วนราคาข้าวในประเทศ ก็ยังอยู่ในทิศทางที่ดี ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมจะติดตามใกล้ชิด แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อราคาข้าวถุงในประเทศ

นายวัฒนศักย์ กล่าวต่อว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญต่อผลผลิตและราคาสินค้าอุปโภค และสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด โดยวันที่ 7 ส.ค.นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ สั่งการให้เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง การผลิต และการตลาดสินค้าเกษตร เพื่อประเมินสถานการณ์รอบด้าน รวมถึงผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง และหารือมาตรการในการรับมือ

ด้าน ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้า ภายใน กล่าวว่า สถานการณ์ปุ๋ยเคมีสัปดาห์นี้ ยังปรับตัวลดลง โดยลดลงเฉลี่ย 24-51% ส่วนยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ลดลง 24-32% ซึ่งกรมจะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะแนวโน้มราคาพลังงานเริ่มสูงขึ้น และมีความต้องการใช้ปุ๋ยเพิ่มขึ้นช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย. แต่ในเรื่องปริมาณ มีเพียงพอ ส่วนอาหารสัตว์ ยังไม่อนุมัติให้ผู้ผลิตขึ้นราคา และแนวโน้มราคาวัตถุดิบหลายตัวเริ่มลดลง ทั้งข้าวโพดและถั่วเหลือง.