บอร์ดแข่งขันทางการค้า ไฟเขียวรวมธุรกิจ “บางจาก-เอสโซ่” แบบมีเงื่อนไข หลังพบการควบรวมเป็นการลดการ แข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ ให้บางจากต้องปฏิบัติตาม 6 ข้อ เช่น ห้ามเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นของหน่วยงานภาครัฐภายใน 5 ปี ให้คงสัญญาเดิมกับคู่ค้าเอสโซ่จนกระทั่งหมดสัญญา สั่งส่งผลรายงานรวมธุรกิจใน 30 วัน หากไม่พอใจเงื่อนไขควบรวม มีสิทธิฟ้องศาลปกครองใน 60 วัน
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) พิจารณาคำขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมติ ให้รวมธุรกิจกันได้ โดยกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขประกอบการอนุญาตให้รวมธุรกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเห็นว่าการรวมธุรกิจมีความจำเป็นทางธุรกิจ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบผู้บริโภคส่วนรวม
แต่การรวมธุรกิจอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมทั้งห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการรวมธุรกิจ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างตลาดในตลาดโรงกลั่นน้ำมัน ตลาดการค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่างๆ และตลาดการค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านสถานีบริการ มีผลทำให้การกระจุกตัวของตลาดเพิ่มขึ้น ถือเป็นการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ
บอร์ดกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขเพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรวมธุรกิจ ดังนี้ 1.ห้ามบางจากเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของหน่วยงานภาครัฐ เป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เว้นแต่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
2.ให้บางจากจัดซื้อน้ำมันดิบจากคู่ค้ารายใดรายหนึ่งไม่เกินกว่า 50% เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันดิบจากรายใดรายหนึ่งมากเกินไป ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความมั่นคงทางพลังงาน เว้นแต่เป็นการจัดซื้อน้ำมันดิบจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการของบางจาก โดยให้บางจากรายงานผลการจัดซื้อน้ำมันดิบของปีที่ผ่านมา ต่อบอร์ดแข่งขันภายในไตรมาสแรกของปีถัดไป
3.ให้บางจากคงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างลูกค้าในตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ได้ทำไว้กับบริษัท เอสโซ่ จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม หากมีการเปลี่ยนแปลงต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้ารายนั้นด้วย
4.ให้บางจากคงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO ที่ได้ทำไว้กับบริษัท เอสโซ่ จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม หากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรเช่นกัน
5.ให้บางจากจัดทำแผนการพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจพลังงานสีเขียว โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา และต้องมีงบประมาณดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมพลังงานสีเขียวและการจัดการสิ่งแวดล้อม ไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ
6.ให้บางจากจัดทำแผนการส่งผ่านประโยชน์ที่ได้รับจากการรวมธุรกิจไปสู่ผู้บริโภคและสังคม โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เพื่อเป็นหลักประกันการส่งผ่านประโยชน์ไปยังผู้บริโภคและสังคม รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้วย และให้มีหนังสือรายงานผลการรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รวม ธุรกิจแล้วเสร็จด้วย และในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งได้รับแจ้งคำสั่งของบอร์ดแข่งขันไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง.