ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลก ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่ 1.34 บาทต่อลิตร ออกไปอีกจนถึงวันที่ 20 พ.ค.นี้ ประกอบกับกองทุนน้ำมันในส่วนบัญชีน้ำมันมีรายรับ 516 ล้านบาทต่อวัน หรือ 14,455 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้กองทุนน้ำมันในส่วนบัญชีน้ำมันมีฐานะติดลบน้อยลง
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 14 ก.พ. จึงมีมติเห็นชอบค่าการตลาดน้ำมันที่เหมาะสม โดยปรับค่าการตลาดน้ำมันกลับสู่สภาวะปกติตามปี 2563 ทั้งกลุ่มน้ำมันดีเซลและกลุ่มน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนน้ำมันมีรายรับในส่วนของน้ำมันดีเซลลดลงเป็น 37.23 ล้านบาทต่อวัน และจะทำให้ราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินปรับลดลง 0.90-1.20 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ผู้ค่าน้ำมันยังไม่ได้ประกาศปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน แต่ได้ปรับลดราคาน้ำมันเฉพาะกลุ่มดีเซลลง 50 สต.ต่อลิตร ตามมติ กบง.ก่อนหน้า.