นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผย แนวทางการพัฒนาแหล่งพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อน ไทย-กัมพูชา หรือ (Overlapping Claims Area : OCA) เพื่อนำก๊าซธรรมชาติมาใช้รองรับวิกฤติด้านพลังงานของประเทศ ว่า เรื่องนี้อยู่ในแผนการทำงานของรัฐบาลแล้ว และคงกำหนดเอาไว้เป็นแผนในระยะยาว โดยยืนยันว่า ตามแผนของรัฐบาลได้กำหนดแนวทางเอาไว้ 2 ด้าน คือ 1.การส่งเสริมพลังงานสะอาดมากขึ้น ด้วยการพึ่งพาตัวเอง และ 2.การแสวงหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ หรือแหล่งพลังงานที่มีในประเทศ เช่น การเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ โดยพร้อมกับพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศกัมพูชา เป็นต้น
“ในการแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกัมพูชานั้น ถ้าหากเริ่มคุยกันตั้งแต่วันนี้ และเสร็จเร็ว ก็เชื่อว่าอีก 10 ปีก็คงได้ใช้ เพราะตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานก็มีหมดแล้วและน่าจะเป็นประโยชน์ของทั้งไทยและกัมพูชา”
อย่างไรก็ตาม ในการขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาแหล่งพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อน ไทย-กัมพูชานั้น รัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยรองนายกฯยอมรับว่า กระทรวงการต่างประเทศจะรับเป็นผู้นำในการพิจารณา และเจรจาเรื่องดังกล่าว ในขั้นตอนต่อจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้นำเรื่องนี้ แต่ในวิธีการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาได้แจ้งไปว่า ตอนนี้ยังต้องดูรายละเอียดอื่นๆ เช่น ยังมีเรื่องของแนวเขตที่กระทรวงการต่างประเทศยังเป็นกังวลอยู่ และต้องหาทางออก และอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความร่วมมือทางเศรษฐกิจถ้าร่วมมือก่อนได้ก็จะดี ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี เบื้องต้นได้รับทราบการรายงานว่าการพูดคุยในเรื่องดังกล่าวนั้น มีความคืบหน้าตามลำดับ และการหารือก็เป็นไปได้ด้วยดี.