ราคาทองคำโลกนิวไฮ แต่ทองไทยนิ่งเพราะอะไร กับ 3 เครื่องมือปิดเสี่ยง ที่นักลงทุนต้องรู้

Investment

Gold

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ราคาทองคำโลกนิวไฮ แต่ทองไทยนิ่งเพราะอะไร กับ 3 เครื่องมือปิดเสี่ยง ที่นักลงทุนต้องรู้

Date Time: 13 ก.ย. 2567 17:59 น.

Video

บัญชีม้า เกลื่อนเมือง คนไทยอยู่อย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ ? | Money Issue

Summary

  • ราคาทองโลกพุ่งทำนิวไฮที่ 2,560 ดอลลาร์ฯ หลังทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาลง แต่ “บาทแข็ง” ยังฉุด ทำทองไทยไม่พุ่งตาม นักวิเคราะห์ฯ คาดอาจแข็งแตะ 33 บาทต่อดอลลาร์ ชี้ทุกการแข็งค่า 10 สตางค์ กระทบราคาทองคำไทย 100 บาท พร้อมแนะ 3 เครื่องมือ ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

Latest


ราคาทองคำโลกทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 2,560 ดอลลาร์ฯ หลังแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางต่างๆ มีความชัดเจนขึ้น นำโดยคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ตัดสินใจปรับลดลง 0.25% ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับราคาทองคำในประเทศ กลับมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแม้ราคาทองคำไทยมีการปรับขึ้นตามทิศทางราคาทองคำโลก แต่ด้วยการแข็งค่าของค่าเงินบาทที่ปัจจุบันทำจุดตํ่าสุดในรอบปีครึ่ง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ราคาทองในไทยไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ตามทิศทางของตลาดโลกอย่างเต็มที่


ด้านนักวิเคราะห์ฯ คาดระยะสั้นเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อแตะระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ ชี้ทุกการแข็งค่าของเงินบาท 10 สตางค์ จะกระทบทางลบต่อราคาทองคำไทย 100 บาท พร้อมแนะนำ 3 เครื่องมือ ป้องกันเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ทำกำไรยุคราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น


สำหรับความเคลื่อนไหวราคาทองล่าสุด 13 กันยายน 2567 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ณ เวลา 14:06 น. ทำให้ราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 40,400 บาท ขายออกบาทละ 40,500 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 39,673.72 บาท ขายออกบาทละ 41,000 บาท


บาทแข็ง ฉุด “ทองไทย” ไม่พุ่งตาม “ทองโลก”


ศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ให้ความเห็นกับ “Thairath Money” ว่า ราคาทองคำไทยเคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บาทละ 42,150 บาท ตอนนั้นราคาทองคำในตลาดโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 2,483 ดอลลาร์ฯ ส่วนเงินบาทอยู่ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์


ซึ่งปัจจุบัน Gold Spot ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 2,560 ดอลลาร์ฯ ดังนั้น หากค่าเงินบาทยังอยู่ที่เดิม เราอาจเห็นราคาทองคำแตะที่ระดับ 45,000 บาทได้


แต่ในความจริง เงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ 33.33 บาทต่อดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้น 2.70 สตางค์ ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นไม่ได้สูงมากนัก โดย ศิริลักษณ์ ชี้ให้เห็นว่า ทุกการแข็งค่าของเงินบาท 0.10 บาท (10 สตางค์) มีผลกระทบทางลบกับราคาทองคำในประเทศประมาณ 100 บาท


ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น มาจาก 2 ประเด็นหลัก คือ 1.เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เป็นขาลง โดยมีโอกาสปรับลดลง 0.25-0.50% ในสัปดาห์หน้า และ 2.เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากประเด็นทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น


ทั้งนี้ ประเมินว่าในระยะสั้นค่าเงินบาทจะยังไม่อ่อนค่าลง และมีโอกาสแข็งค่าแตะที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากประเด็นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐเป็นขาลง รวมถึงประเด็นในประเทศอย่างการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดุลบัญชีเดินสะพัด และจำนวนท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น


“การแข็งค่าของเงินบาท อาจทำให้ราคาทองไทยปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด และสู้กับการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกไม่ได้ แต่ถ้าเงินบาทเริ่มนิ่ง มองว่าผลตอบแทนก็จะเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับราคาทอง Spot ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นแนวโน้มขาขึ้น” ศิริลักษณ์ กล่าว


เปิด 3 เครื่องมือ ปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน


ศิริลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำอยู่ สามารถถือเก็งกำไรต่อไปได้ พร้อมแนะนำ 3 เครื่องมือทางการเงิน สำหรับการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ดังนี้


1.USD Futures ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) หรือ ฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ หากเงินบาทยังแข็งค่าขึ้น นักลงทุนที่เปิดขายไว้ (Short) จะได้ส่วนชดเชยราคาทองคำ จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน


2.Gold Online Futures ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX)  หรือ ฟิวเจอร์ส ที่อ้างอิงกับทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่มีการซื้อ-ขาย ระหว่างวัน ในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนมาก โดยเครื่องมือทางการเงินนี้ จะไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างวัน


3.กองทุนรวมทองคำ ซึ่งการเคลื่อนไหวของมูลค่าหน่วยลงทุน จะสอดคล้องไปตามเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก ในขณะที่ผู้จัดการกองทุน มักมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้อยู่แล้ว

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์