สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า ความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งของคนจีน ได้ผลักดันให้การซื้อขายราคาทองคำในจีน สูงกว่าราคา ทองคำในตลาดโลก เนื่องจากนักลงทุนหันมาสะสมทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเงินหยวนที่อ่อนค่า
ตามรายงานของสื่อของประเทศญี่ปุ่น เผยว่า ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในจีนสะท้อนผ่าน ค่าสเปรดหรือค่าพรีเมียม โดยราคา spot ทองคำในจีน ผ่านตลาด Shanghai Gold Exchange อยู่ที่ประมาณ 470 หยวน หรือ 65 ดอลลาร์ ต่อกรัม สูงกว่า spot ทองคำในลอนดอน โดยมีค่าพรีเมียมประมาณ 40 ดอลลาร์
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น แตกต่างจากในอดีตที่ ราคาซื้อขายทองคำในจีนส่วนใหญ่ จะต่ำกว่าราคาทองคำโลก ซึ่งทิศทางดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา สอดคล้องกับราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์กที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับเหนือกว่า 2,100 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ตั้งแต่นั้นมา
ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในจีน เป็นผลมาจากความกังวลทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์หลังโควิด สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อการผลิต(PMI) ในเดือนพฤศจิกายนที่ทรงตัวต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
ประกอบกับวิกฤติหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจของจีน และเงินหยวนที่อ่อนค่าลง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี ได้กระตุ้นให้นักลงทุนจีนซื้อทองสะสมเพื่อรักษามูลค่าการลงทุนมากขึ้น
อ้างอิง