คนไทยซื้อทองน้อยลง 30% กำลังซื้อหด ราคาทองพุ่ง แถมเจอ ออมทองออนไลน์ ตีตลาด

Investment

Gold

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คนไทยซื้อทองน้อยลง 30% กำลังซื้อหด ราคาทองพุ่ง แถมเจอ ออมทองออนไลน์ ตีตลาด

Date Time: 7 ก.ย. 2566 17:24 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Summary

  • นายกสมาคมค้าทองคำชี้ ครึ่งปีแรกคนไทยซื้อทองลดลง 30% เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่า เศรษฐกิจและกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ส่งผลให้ราคาทองปรับขึ้น คาดว่าปี 67 ตลาดจะมีทิศทางดีขึ้น ส่วนแนวโน้มที่ราคาทองจะลดลงนับว่ายังมีโอกาส แต่คงต้องจับตาท่าทีของเฟดและค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน

Latest


จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยในงานเสวนา Thailand Gold Forum 2023 ว่า ครึ่งปี 2566 ที่ผ่านมา คนไทยซื้อทองคำลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อของคนไทยยังไม่ฟื้นตัว บวกกับเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้ราคาทองสูงขึ้นอยู่ที่ระดับบาทละประมาณ 32,000 บาท และคนหันมาออมทองผ่านออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้ มองว่าปีหน้าจะมีทิศทางดีขึ้น จากการที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา รายได้ของประชาชนเริ่มสดใส 

แต่ทั้งนี้ จากการที่ราคาทองสูงขึ้น ส่วนใหญ่จะมีการนำมาขาย แต่ก็ไม่ได้ซื้อกลับ แม้ว่าโดยปกติในช่วงที่ขายดีจะเป็นช่วงปลายปี เทศกาลตรุษจีน สงกรานต์ แต่ปีนี้ทุกเทศกาลกลับเงียบผิดไปจากอดีต ที่เมื่อราคาทองลดลง ก็จะมีประชาชนมาต่อคิวรอซื้อทองคำกันเป็นจำนวนมาก ส่วนแนวโน้มที่ราคาทองจะลดลงนับว่ายังมีโอกาส แต่ก็ต้องจับตานโยบายของเฟดและค่าเงินบาท ขณะเดียวกันหลังจากจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น คาดว่าเศรษฐกิจและกำลังซื้อจะกลับมาดีขึ้น และมีแนวโน้มที่ประชาชนจะซื้อทองคำเก็บสะสมด้วยเช่นกัน

ด้าน พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ในอดีตการซื้อขายทองคำจะอยู่ในวงแคบๆ เช่น ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่เก็บทองคำไว้เป็นทุนสำรอง รวมถึงอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 


แต่ปัจจุบันหน้าที่ของทองคำกระจายไปมากกว่าเดิม เพราะในอีกมิติหนึ่งคือเป็นสินทรัพย์ในการลงทุน ในขณะที่ตลาดทองคำในประเทศมีการพัฒนาต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือกันจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถือเป็นส่วนสำคัญที่พัฒนาตลาดทองคำจากในอดีตสู่ปัจจุบัน ทำให้ผลิตภัณฑ์การลงทุนทองคำในประเทศไทยมีความหลากหลายสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในประเทศ นั่นทำให้ตลาดทองคำในไทยเติบโต ทั้งในแง่ของปริมาณความต้องการทองคำ และมูลค่าการส่งออก ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม 


สำหรับประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าการบริโภคทองคำเฉลี่ยอยู่ที่ 60 ตันต่อปี ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย เป็นรองแค่ จีน และอินเดีย และเป็นอันดับ 7 ของโลก แต่หากพูดถึงทางด้านการใช้ ไทยถือเป็นฮับอันดับหนึ่งในภูมิภาค ปัจจุบันแม้คนไทยจะไม่ค่อยนิยมสวมใส่ทองคำในรูปของเครื่องประดับแล้ว แต่คนไทยหันมาซื้อขายทองคำผ่านระบบออนไลน์เพื่อลงทุนมากขึ้น ทำให้ตลาดทองคำในประเทศยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง  

ด้วยจุดแข็งที่สำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณความต้องการทองคำในประเทศที่แข็งแกร่ง, ความพร้อมด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งเป็นประตูสู่ประเทศในอาเซียนที่มีปริมาณความต้องการทองคำในระดับสูงเช่นกัน, ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน, มาตรการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมค้าทองคำ รวมไปถึงผู้ประกอบการในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมทองคำ 

ฉะนั้นหาก GDP ดีขึ้น เงินจะเข้ากระเป๋าคนมากขึ้น และคนจะมีศักยภาพในการเข้ามาซื้อทองเพื่อจับจ่ายใช้เป็นเครื่องประดับ การลงทุนได้มากขึ้น ฉะนั้นมีการตั้งเป้าว่าจะมีการใช้ทองคำมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ซึ่งทองคำในไทยเคยนำเข้า 100 ตันต่อปี ในปี 2012-2013 และ 150 ตันต่อปี ในปี 2014-2015 แต่ปัจจุบันดรอปลง เนื่องจากเศรษฐกิจแย่ลง แต่หากเศรษฐกิจสามารถฟื้นคืนกลับมาได้หลังจากโควิด ก็เชื่อว่าภาพรวมจะมีแนวโน้มกลับมาสดใสอีกครั้ง อย่างน้อยก็จะมีปริมาณอยู่ที่ 100 ตันต่อปี ภายใน 3-4 ปีข้างหน้า 

แต่ทั้งนี้ จากปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน จะมีผลต่อราคาทองคำเคลื่อนไหวหรือไม่นั้น พวรรณ์ มองว่า ราคาทองคำขึ้นอยู่กับนโยบายการเงินของเฟด เพราะฉะนั้นครั้งที่ผ่านมาที่เฟดจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในช่วงสิ้นปี พบว่าความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งที่ 0.25% น่าจะอยู่ที่เดือนพฤศจิกายน และจะเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากนี้ต้องดูว่าเฟดจะมีนโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และเมื่อไรที่ดอกเบี้ยลดลง ทองคำก็จะมีโอกาสดีดขึ้น และหากดู 40 ปีย้อนหลัง ทองคำเป็นเทอมบาท ตกบาทละ 400 และไม่เคยต่ำลงเลย เคยมีการทำการประเมินว่า ราคาทองคำอาจจะขึ้นไปอยู่ที่ 40,000-50,000 บาทต่อบาทในอนาคต ดังนั้นเราเชื่อว่าโอกาสที่ทองคำเป็นเทอมบาทจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่า

ส่วนสัญญาณบ่งชี้ที่ตัวบริโภคทองคำในประเทศจะกลับมาคือ เศรษฐกิจดีขึ้น คนเงินเหลือ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากว่า 46% จะมาจากการลงทุนเป็นหลัก ทั้งนี้ นักลงทุนที่ซื้อทองคำแท่ง ยังคงมีการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกันยังได้มีการดำเนินการจัดตั้ง Self regulation เพื่อคอนโทรลกลุ่มที่เป็นค้าทองด้วยกันเอง โดยเป็นการตั้งมาตรฐานที่เชื่อถือได้ขึ้นมาเอง ที่จะมีผู้เล่นรายใหญ่เป็นโบรกเกอร์ในตลาด TFEX เพื่อตัดโบรกเกอร์เถื่อนออกไป ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นภายในมกราคม 2567

จึงมั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการค้าทองคำในประเทศไทย และยกระดับให้ไทยก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าทองคำในระดับภูมิภาคและนานาชาติได้อย่างแน่นอน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ