ส่องแนวโน้มราคาทอง กูรูแนะ ทองคำชอบเงินเฟ้อ แต่ไม่ชอบอัตราดอกเบี้ย

Investment

Gold

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่องแนวโน้มราคาทอง กูรูแนะ ทองคำชอบเงินเฟ้อ แต่ไม่ชอบอัตราดอกเบี้ย

Date Time: 1 ก.ค. 2564 13:04 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • กูรูทองคำแนะทองคำชอบเงินเฟ้อ แต่ไม่ชอบอัตราดอกเบี้ย คาดแม้เฟดขึ้นดอกเบี้ย แต่เงินเฟ้อขึ้นแรงกว่า แนวโน้มราคาทองก็ยังขึ้นอยู่ดี

Latest


กูรูทองคำแนะทองคำชอบเงินเฟ้อ แต่ไม่ชอบอัตราดอกเบี้ย คาดแม้เฟดขึ้นดอกเบี้ย แต่เงินเฟ้อขึ้นแรงกว่า แนวโน้มราคาทองก็ยังขึ้นอยู่ดี

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการตลาดเสรีกลาง หรือ FOMC ที่ผ่านมา เฟดบอกว่าจะมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม จากที่คิดไว้ คือ ปี 2024 จะเลื่อนมาเป็นปี 2023 และอาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 2 ขั้น นั่นทำให้หลายคนอาจกังวล

ทั้งนี้ เพราะเราเคยมีบทเรียนมาก่อนในสมัยปี 2011 ที่ทองได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วหลังจากนั้นราคาทองคำก็เป็นขาลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เฟดประกาศลดปริมาณการทำ QE และสุดท้ายเฟดก็ขึ้นดอกเบี้ยในที่สุด ซึ่งเวลาระยะเวลาการลงของทองคำในสมัยนั้นกินเวลาถึง 4 ปีด้วยกัน หากนับจากวันที่ทำจุดสูงสุด ซึ่งทำให้คนไทยเจ็บปวดเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม หากเราเข้าใจพื้นฐานของทองคำแล้วว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ทองขึ้นหรือลง ความจริงแล้วทองคำไม่ได้มีความสัมพันธ์กับดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว แต่อาจมีความเกี่ยวข้องกับเงินเฟ้อด้วย อธิบายง่ายๆ ก็คือ ทองคำชอบเงินเฟ้อ แต่ไม่ชอบอัตราดอกเบี้ย นั่นหมายความว่าหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย แต่เงินเฟ้อขึ้นแรงกว่า แบบนี้ทองก็ยังขึ้นอยู่ดี

ยกตัวอย่าง หากใครจำได้เราจะพบว่าในปี 2011 - 2015 ช่วงนั้นอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ 1-3% ทั้งๆ ที่เฟดพิมพ์เงินออกมามาก นั่นเป็นเพราะช่วงนั้นเกิดการล้มละลายของธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ทำให้เกิดหนี้สูญจำนวนมาก นั่นก็หมายความว่า การที่เฟดพิมพ์เงินเข้ามา ไม่ได้ทำให้เงินในระบบโตขึ้นเท่าไหร่ เพราะเงินที่เติมเข้ามาเพียงเติมส่วนของหนี้เสียจำนวนมาก ทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ

โดยเงินที่ถูกอัดฉีดเข้ามาในระบบทุกวันนี้มีโอกาสที่จะทำให้เกิดเงินเฟ้อถึงระดับ 5 - 6% ซึ่งทางเฟดเองก็ได้แต่ย้ำว่า เงินเฟ้อที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นจะมาเพียงแค่ชั่วคราว แต่อย่างไรก็ดีเฟดก็เคยคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อผิดมาแล้วในอดีตกับการเกิดเงินเฟ้อรุนแรงในปี 1940-1950

ทั้งนี้ หากเรามองว่าโอกาสที่เงินเฟ้อจะพุ่งสูงมีโอกาสเกิดได้มาก ดังนั้นแนวโน้มราคาทองคำไม่น่าจะลงไปเยอะอย่างที่ทุกคนกังวล ซึ่งการลง ณ วันนี้เกิดจากความไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะมาแค่ชั่วคราวจริงหรือไม่ ซึ่งหากเงินเฟ้อมาจริง กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือทองคำไม่ควรลงไปต่ำว่า 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เนื่องจากเป็นจุดที่ราคาเคยลงไปแตะหลังจากตลาดรับรู้ข่าวดีเรื่องการฉีดวัคซีน และข่าวดีทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งถ้าหากเกิดราคาทองลงไปต่ำกว่า 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แปลว่าเงินเฟ้อที่กล่าวมาไม่มีอยู่จริง และนั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า ขาลง ของราคาทองคำโลกก็เป็นได้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ