แนวโน้มราคาทองคำเดือน มิ.ย. 64 ยังมีลุ้นหากผ่านแนวต้าน 28,000-28,250 บาท มีลุ้นไปต่อ แต่หากยืนไม่ไหว ใช้เป็นโอกาสเข้าซื้อที่แนวรับ 27,500-27,350 บาท แนะจับตาผลการประชุมเฟดช่วงกลางเดือน หากส่งสัญญาณลดการทำ QE เร็วกว่าคาด อาจมีผลกระทบราคาทองคำ
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า ภาพรวมราคาทองคำในเดือน มิ.ย. 64 นี้ แม้ราคาทองคำจะปรับตัวสลับแดนบวกและแดนลบ แต่ยังถือว่าเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยในช่วงต้นเดือน ราคาทำระดับสูงสุดที่ 1,917 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา
แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวไม่ไกลจาก 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยแรงขายส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยการขายทำกำไรทางเทคนิค นอกจากนี้กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ก็เริ่มกลับมาทำการขาย หลังจากที่เข้าซื้อเมื่อเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม ในเดือน มิ.ย. 64 นี้ มีปัจจัยที่ต้องจับตาคือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด โดยเฉพาะประเด็นของการประเมินความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาประเด็นเหล่านี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าและส่งผลดีต่อราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น
โดยการประชุมในครั้งนี้จึงมีความสำคัญกับทิศทางการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงที่เหลือของปี เพราะหากมีการส่งสัญญาณลดการอัดฉีดเงินเข้าระบบ หรือการลดวงเงิน QE เร็วกว่าที่คาดก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ยังต้องจับตาใกล้ชิด เพราะแม้ตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้น แต่เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่มองว่ายังคงห่างไกลจากเป้าหมายของเฟด
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้หากสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,903-1,917 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,000-28,250 บาทต่อบาททองคำ ก็จะเป็นสัญญาณไปต่อได้ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ แนะนำให้ขายทำกำไรออกมาก่อน
อย่างไรก็ดีจังหวะที่ราคาทองคำหลุดแนวต้านและปรับตัวลดลงนี้ วายแอลจียังคงแนะนำให้เข้าซื้อได้ที่แนวรับ 1,869-1,855 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือเข้ารับที่ใกล้บริเวณ 27,500-27,350 บาทต่อบาททองคำ เพราะในระยะยาวสัญญาณทองคำยังเป็นบวก.