นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมรับฟังความเห็นจากนักลงทุนทั่วไป ทั้งสถาบันและรายย่อย กรณีที่กระทรวงฯจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนวายุภักษ์เพิ่มเติมในปลายปีนี้ โดยกำหนดวงเงินเสนอขายไว้ที่ 100,000-150,000 ล้านบาท เป็นการขายเพิ่มเติมจากกองทุนเดิมที่มีมูลค่า 350,000 ล้านบาท ทำให้ขนาดของกองทุนวายุภักษ์ใหญ่ขึ้น โดยอยู่ที่ 500,000 ล้านบาท ขนาดของกองทุนวายุภักษ์ที่ 500,000 ล้านบาทถือว่าเป็นขนาดที่เต็มวงเงินตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้เมื่อปี 2556 ราคากำหนดไว้ที่ 10 บาทต่อหน่วย เพื่อให้รายย่อยเข้าถึงการลงทุนได้ และไม่ได้กำหนดการซื้อขั้นต่ำและขั้นสูง ในลักษณะ Small Lot First
“ประเมินว่าจะมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนกลุ่มสถาบัน ทั้งสถาบันการเงิน ประกันชีวิต กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ที่มีสภาพคล่องเพียงพอ”
สำหรับการลงทุนในหน่วยลงทุนวายุภักษ์ การันตีผลตอบแทนที่เทียบเคียงกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี หากว่าถือครองหน่วยลงทุนครบ 10 ปี จะได้รับคืนเงินต้น 100% มีการจ่ายผลตอบแทนปีละ 2 ครั้ง ที่ผ่านมาผลตอบแทนการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนวายุภักษ์อยู่ในระดับที่เกินกว่า 3.5% หรือเฉลี่ย 4% แต่ไม่รวม Capital Gain (กำไรจากการขายหน่วยลงทุน) สาเหตุที่ต้องเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติม เพื่อต้องการให้เม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์มีส่วนกระตุ้นการลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้น.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่