หุ้นเวียดนามฮอต PRINCIPAL VNEQ เพิ่มทุนเป็น 2 หมื่นล้าน แรงซื้อพุ่ง หลังครึ่งปีแรกแจกกำไร 21%

Investment

Fund

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นเวียดนามฮอต PRINCIPAL VNEQ เพิ่มทุนเป็น 2 หมื่นล้าน แรงซื้อพุ่ง หลังครึ่งปีแรกแจกกำไร 21%

Date Time: 7 ส.ค. 2567 12:12 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • เศรษฐกิจเวียดนาม ยังถูกมองเป็นดาวรุ่งของอาเซียน และเอเชีย จากการเติบโตที่สูงมาก และเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าต่อเนื่อง โดยช่องทางยอดนิยมมากที่สุด คือ กองทุนรวม โดยล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล ประกาศเพิ่มทุนในกองทุนเปิด PRINCIPAL VNEQ จากเดิม 1 หมื่นล้านบาท เป็น 2 หมื่นล้านบาท หลังมีแรงซื้อจากนักลงทุนเข้ามาจำนวนมาก โดยพบว่า ผลตอบแทนในครึ่งปีแรก PRINCIPAL VNEQ ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 21%

Latest


จุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.พรินซิเพิล ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของกองทุนเปิด “พรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้” (PRINCIPAL VNEQ) เป็น 20,000 ล้านบาท หรือ 2,000 ล้านหน่วย จากเดิมมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท หรือ 1,000 ล้านหน่วย เพื่อรองรับความต้องการจากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม

ขณะที่ ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด PRINCIPAL VNEQ ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 สร้างผลตอบแทน 21.49% สูงกว่าดัชนีเปรียบเทียบที่ทำได้ 4.46% โดยในปี 2566 ให้ผลตอบแทน 11.94% เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามในประเทศไทย และสูงกว่าดัชนีเปรียบเทียบที่ทำได้ 5.03% (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567) นอกจากนี้กองทุนได้รับการจัดอันดับ Morningstar ระดับ 5 ดาว 

นายจุมพล กล่าวว่า เวียดนามถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพเติบโตสูงและตลาดหุ้นมีความน่าสนใจเข้าลงทุนต่อเนื่องถึงแม้ว่าตลาดหุ้นเวียดนามจะปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งโดยมีจุดเด่นที่น่าจับตามอง ได้แก่

1) เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่คาดว่าจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า เวียดนามจะเติบโตเฉลี่ย 6.5% ในอีก 5 ปีข้างหน้าได้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 2/2567 ที่ผ่านมา GDP ของเวียดนามปรับขึ้นสูงถึง 7% จากปีก่อนจากการภาคอุตสาหกรรมและการผลิต

2) ประชากรในเวียดนามมีศักยภาพสูง ทั้งด้านความสามารถด้านภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เนื่องจากรัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนศึกษาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ในขณะที่ค่าแรงของเวียดนามไม่สูงนัก ทำให้สามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้

3) บริษัทต่างๆ กระจายการลงทุนจากจีนมายังเวียดนามจากการใช้นโยบาย China+1 และเพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีโอกาสรุนแรงขึ้นหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ 

4) การส่งออกของเวียดนามทั้งสินค้าและบริการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าสินค้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สอดคล้องกับเทรนด์ด้าน AI ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นในระดับสูงกว่าปี 2561 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 

5) เศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่ง ทำให้การบริโภคในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้น ประชาชนมีกำลังการบริโภคมากขึ้น ชนชั้นกลางเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขการค้าปลีกที่อยู่เหนือระดับ 9% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยในเดือน ก.ค. ตัวเลขปรับขึ้นถึง 9.4% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว

ถึงแม้ว่าค่าเงินดองจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำให้การเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนามลดลง เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/2567 ที่ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งนี้ธนาคารกลางเวียดนามได้มีการแทรกแซงค่าเงินดองในช่วงที่ผ่านมาและทำให้สกุลเงินดองมีเสถียรภาพมากขึ้น และตลาดคาดว่าค่าเงินของหลายประเทศจะแข็งค่าขึ้นได้หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 

ตลาดหุ้นเวียดนามสร้างผลตอบแทนดีที่สุดในอาเซียน โดยคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดหุ้นเวียดนามในอีก 12 เดือน และ 24 เดือนข้างหน้านับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 จะโตได้กว่า 30% และ 20% ตามลำดับ ในขณะที่ค่า Forward P/E เฉลี่ย 12 เดือนอยู่ในระดับไม่สูงมากประมาณ 13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีประมาณ -0.5 SD จึงเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสมเพิ่มได้สำหรับนักลงทุนระยะกลางและยาว

กองทุน PRINCIPAL VNEQ บริหารจัดการโดย บลจ.พรินซิเพิล โดยตรง ผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์จะทำบทวิเคราะห์และประเมินมูลค่าหุ้นเวียดนามภายในเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้เหนือตลาด และคัดเลือกหุ้นที่มีลักษณะ FMV ครบ คือ F (Fundamental) ปัจจัยพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดที่ดี มีธรรมาภิบาลสูง M (Momentum) ราคาของหลักทรัพย์มีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่อง และมีสภาพคล่องมากเพียงพอ และ V (Valuation) มีมูลค่าที่เหมาะสมและสูงกว่าราคาปัจจุบัน กองทุนเน้นการสร้างผลตอบแทนระยะยาว และหลีกเลี่ยงการลงทุนในหลักทรัพย์ที่นักลงทุนรายย่อยเก็งกำไรโดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก จากปรัชญาการลงทุนที่แข็งแกร่งทำให้กองทุน PRINCIPAL VNEQ สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างผลตอบแทน 6 เดือนแรกได้ถึง 21.49% สูงกว่าดัชนีชี้วัดกว่า 17% ในขณะที่ควบคุมความเสี่ยงกองทุนได้ดีกว่าดัชนีชี้วัด


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ