นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่มุ่งเน้นการให้บริการที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund สำหรับสมาชิกที่ย้ายงาน แต่ไม่อยากโอนไปยังนายจ้างใหม่ หรือนายจ้างใหม่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
รวมถึงสมาชิกคงเงินที่ไม่ต้องการคงเงินไว้กับนายจ้างเดิม ตลอดจนนายจ้างปิดกิจการ หรือยกเลิกการมีสวัสดิการ เพื่อเป็นทางเลือกให้สามารถโอนย้ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปลงทุนต่อเนื่องในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF โดยได้รับการยกเว้นภาษีเมื่อออมต่อเนื่องถึงอายุ 55 ปี และนับอายุสมาชิกกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการโอนย้าย
ล่าสุด บลจ.อีสท์สปริงมีกองทุนรวม RMF ที่เปิดรับเงินโอนย้ายจาก PVD ภายใต้การบริหารจัดการถึง 38 กองทุน โดยมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ระดับความเสี่ยงต่ำไปจนถึงระดับความเสี่ยงสูง
โดยครอบคลุมสินทรัพย์ทั้งตลาดเงิน พันธบัตร ตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ทั่วโลก หุ้นไทย หุ้นสหรัฐฯ หุ้นยุโรป หุ้นจีน หุ้นญี่ปุ่น หุ้นเวียดนาม หุ้นอินโดนีเซีย หุ้นตลาดเกิดใหม่ หุ้น Low beta หุ้นนวัตกรรมล้ำอนาคตทั่วโลก หุ้นเทคโนโลยีจีน หุ้นเอเชีย หุ้น HEALTH หุ้นอสังหาริมทรัพย์/REIT และทองคำ สำหรับวิธีการโอนย้าย PVD to RMF มายังบลจ.อีสท์สปริง มี 4 ขั้นตอนด้วยกัน ประกอบด้วย
1. เปิดบัญชีพร้อมกรอกแบบฟอร์มเพื่อรับโอนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มายังกองทุน RMF
2. ผู้ลงทุนนำหลักฐานการเปิดบัญชียื่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหากลาออกจากงานแล้วโอนทันทียื่นเอกสารผ่านผู้ประสานงานกองทุนของนายจ้าง ส่วนสมาชิกคงเงินยื่นเอกสารกับบลจ.ต้นทาง
3. บลจ.ต้นทางส่งเช็คพร้อมเอกสารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ บลจ.อีสท์สปริง
4. บลจ.อีสท์สปริง ทำรายการรับโอนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มายังกองทุน RMF
อย่างไรก็ตาม การโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมายังกองทุน RMF ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุนมากกว่านโยบายที่นายจ้างกำหนด เนื่องจากกองทุน RMF มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย สามารถเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือช่วยให้แผนการลงทุนเพื่อเกษียณมีความต่อเนื่อง