คุยกับ บลจ.บางกอกแคปปิตอล การเติบโตบนเส้นทางที่แตกต่าง ความบูทีคที่ตอบโจทย์การลงทุน

Investment

Fund

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คุยกับ บลจ.บางกอกแคปปิตอล การเติบโตบนเส้นทางที่แตกต่าง ความบูทีคที่ตอบโจทย์การลงทุน

Date Time: 21 มี.ค. 2566 09:23 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Latest


อุตสาหกรรมกองทุนรวมกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่สำคัญในการเปลี่ยนผ่าน จากการหมดมาตรการสนับสนุนทางภาษีให้กับผู้ที่ลงทุนในกองทุนรวม ขณะเดียวกันผู้เล่นรายใหญ่ต่างชาติ ก็สามารถเข้าทำการตลาดโดยตรง ทำให้ผู้เล่นในตลาดเวลานี้ต้องปรับตัว โดยหนึ่งในผู้ที่อยู่รอดกลางการเปลี่ยนแปลงด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างนั้น คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล ที่เลือกจะอยู่ในตลาดบูทีค โฟกัสในผลิตภัณฑ์ทางเลือกการลงทุน มากกว่าการโฟกัสมูลค่า AUM

คุณเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล หรือ BCAP เปิดเผยว่า การทำธุรกิจของ BCAP จะแตกต่างจาก บลจ.อื่น โดยเราให้ความสำคัญกับการบริหารการเงินแบบบูทีค ทำให้ BCAP ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอุตสาหกรรมที่อยู่ในช่วงของการปรับตัวของผู้เล่นต่างชาติที่เข้ามายังประเทศไทย


“ภาพรวมของอุตสาหกรรมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ เราไม่มีกำแพงของอุตสาหกรรมอีกต่อไปแล้ว ผู้เล่นต่างชาติสามารถเข้ามาแข่งขันกับ บลจ.ไทยได้โดยตรง ดังนั้น เราอยู่ในจุดที่ต้องเลือกและต้องปรับตัว”
แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีปัจจัยสำคัญในเรื่องการหมดการสนับสนุนด้านภาษี อย่างกองรวมหุ้นระยะยาว หรือ แอลทีเอฟ แต่ไม่ใช่สิ่งที่กระทบอุตสาหกรรม เพราะในกองทุนชนิดนี้ มักอยู่ในตลาดที่ลงทุนเป็นตราสารทางการเงินเป็นหลัก ที่มีค่าบริการที่น้อยกว่าอยู่แล้ว

กองทุนรวมในประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของภูมิภาค บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างชาติกำลังเข้ามาทำการตลาดโดยตรง ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว บางรายเลือกที่จะขายธุรกิจออกไป หรือจับมือเป็นพันธมิตรกับ บลจ.จากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท

บริหารพอร์ตได้ง่ายกว่า

สำหรับ BCAP การเติบโตที่ผ่านมา อยู่ในทิศทางที่ดี โดยเรามี AUM อยู่ที่ 6.6 หมื่นล้านบาท กลยุทธ์การทำธุรกิจของ บลจ.การลงทุนทางเลือก หรือ Alternative Investment ช่วยให้เราแตกต่างจาก บลจ.อื่น โดยให้ความสำคัญกับการบริหารการเงินแบบบูทีค ทั้งการให้บริการผ่าน Private Market ต่างๆ อย่าง กองทุนส่วนบุคคล กองทุนรวมหุ้นส่วนบุคคล หรือ Private Equity เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า


ซึ่งความโดดเด่นของ BCAP คือ เราสามารถลงทุนต่างประเทศได้โดยตรง ในทุกประเภทของกองทุน ต่างจากการลงทุนของบริษัทอื่นๆ ที่ลงทุนผ่าน กองทุนฟีดเดอร์ฟันด์ ความได้เปรียบนี้มาจากเรามีโครงสร้างพื้นฐาน ที่สามารถส่งคำสั่งซื้อหุ้นได้โดยตรง มีทีมผู้เชี่ยวชาญในด้านการลงทุนต่างประเทศ ทั้งทีมบริหารจัดการทรัพย์สิน ผู้จัดการกองทุนจากต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์ในการบริหารสินทรัพย์ระดับโลก ทำให้บริษัทซื้อ ETF ในต่างประเทศ ไม่ต้องไปลงทุนแบบฟีดเดอร์ฟันด์ที่จะเกิดต้นทุนที่สูงกว่า ในเวลาจัดพอร์ตออกมา ต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง

“ด้วยเหตุที่เราลงทุนต่างประเทศได้โดยตรง เวลาเกิดสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น สามารถพอร์ตได้ทันที หรือเราจะเลือกย้ายเงินลงทุนจากประเทศหนึ่ง ไปยังอีกประเทศหนึ่งได้ทั้งหมด โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ กับลูกค้า”

โดยในปีนี้ บริษัทจะยังคงทำการตลาดผ่าน การลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) ที่มีความหลากหลาย เช่น Hedge Fund, Private Real Estate เติมเต็มโมเดลพอร์ตการลงทุนให้ครบถ้วน โดยหนึ่งในฐานลูกค้า สำหรับลูกค้าของ บลจ.คือ ลูกค้า Wealth ของธนาคารกรุงเทพ

“ในปีนี้เราจะเห็นว่าตลาดหุ้นผันผวนมาก ทำให้ไพรเวตมาร์เก็ตน่าสนใจ และนำมาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตลงทุนได้ โดยเฉพาะในกองทุนประเภท Private Fund ที่เรามองว่า จะช่วยไปเสริมพอร์ตหลักที่ลูกค้าลงทุนอยู่แล้ว ช่วยเติมเต็มพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ดีขึ้น”

โดย Private Fund จะลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพ แต่ยังไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เราลงทุนจนเขาแข็งแรงกำไรเติบโต และเข้าไอพีโอได้ ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดยการอาศัยผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ในการแสวงหาโอกาสการลงทุน
ซึ่งที่ผ่านมา บลจ. BCAP มีการออกกองทุนลักษณะนี้มาบ้างแล้ว โดยร่วมกับผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญคือ Pictet และ Vista Equity Partners ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ซึ่งกองทุนประเภทนี้อาจต้องถือยาวถึง 5 ปี บางกองทุนถือยาว 6 ปี ซึ่งปัจจุบันลูกค้ามีความเข้าในในกองทุนประเภทนี้ ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแผนการออก Hedge Fund ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ด้วย

คนรุ่นใหม่ยังใช้กองทุนรวม

อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดความท้าทายมากมายในอุตสาหกรรม แต่ยังมีมุมบวกให้เห็นอยู่ โดย คุณเมธ์วดี เผยว่า กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่อายุน้อย มี 2 ประเภท บางคนไม่เชื่อเรื่องกองทุน และไปลงทุนด้วยตัวเอง โดยลงทุนผ่านคริปโตเคอร์เรนซี กับอีกกลุ่มหนึ่งลงทุนผ่านมืออาชีพ ซึ่งคนรุ่นใหม่ก็ลงทุนกองทุนมากขึ้น จากสมัยก่อนที่กองทุนเป็นเรื่องของคนอายุเยอะ สมัยนี้เด็กนักเรียน หรือเริ่มทำงานใหม่ๆ ก็เริ่มซื้อกองทุนเพื่อประหยัดภาษี

เมื่อคนรุ่นใหม่เข้าใจการลงทุนมากขึ้น ทาง บลจ.ก็ต้องปรับตัว โดยเฉพาะผู้แนะนำการลงทุนจากอดีต ที่ซื้อกองทุนตามคำแนะนำของคนขาย แต่ไม่ได้แนะนำเพิ่มเติมเวลาผ่านไปลูกค้าก็ขาดทุนได้ ดังนั้น เราเองก็ต้องพยายามเปลี่ยนความคิดของคนขาย ให้เป็นโซลูชัน เบส มีการปรับพอร์ตให้ลูกค้าตามสถานการณ์ ให้คำแนะนำต่อ ซึ่งที่ผ่านมาขายไปแล้ว ไม่มีคำแนะนำ สถานการณ์เปลี่ยนไป ก็เกิดความเสียหายกับลูกค้า

พฤติกรรมการลงทุนในยุคปัจจุบัน เปลี่ยนไปจากการเข้าถึงของเทคโนโลยี ทำให้เกิดการซื้อขายกองทุนรวมบ่อยขึ้น จากสมัยก่อนที่ต้องใช้ธนาคารในการซื้อขาย แต่ตอนนี้ระบบปัจจุบันคนแอ็กทีฟมากขึ้น สามารถซื้อขายกองทุนได้ทันที.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ