นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ตนกำลังพิจารณาแนวทางการเพิ่มเงินสมทบจากส่วนของรัฐบาล ให้แก่สมาชิกและการออมของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อให้รายได้จากการออมภายหลังการเกษียณของสมาชิกมีเพียงพอในการดำรงชีพ เพราะหากอยากจะให้คนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับผลตอบแทนในลักษณะบำนาญ อาจต้องมีการเพิ่มการมีส่วนร่วม จากการใส่เงินสมทบในฝั่งรัฐบาลและสมาชิก เพื่อจูงใจให้มีการออมเพิ่มด้วย โดยเมื่อมีข้อสรุปก็จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
“กอช.กำหนดเงื่อนไขการใส่เงินสมทบ แก่สมาชิกตามช่วงอายุ อาทิ อายุ 15-30 ปี รัฐบาลจ่ายเงินสมทบ 50% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อปี อายุมากกว่า 30-50 ปี รัฐบาลจ่ายเงินสมทบ 80% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 960 บาทต่อปี โดยสมาชิกต้องออมขั้นต่ำ 50 บาท สูงสุดไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี ขณะนี้มีสมาชิก 2.38 ล้านราย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดเงินบำนาญของสมาชิก กอช.ภายหลังการเกษียณที่มีการหารือกัน เพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ในภาวะค่าครองชีพสูง ควรอยู่ที่ 15,000-20,000 ต่อเดือน สำหรับผู้ที่เริ่มออมตั้งแต่อายุ 15-60 ปี จากปัจจุบันยอดเงินบำนาญอยู่ที่ 3,000-7,000 บาทต่อเดือน โดยเงินที่นำมาสบทบ ต้องไม่เป็นภาระงบประมาณ แต่หากจะเป็นภาระงบประมาณ ก็ต้องเป็นภาระน้อยที่สุด.