Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

มาร์เก็ตแคป “หุ้นไทย” ต่ำกว่า “ตราสารหนี้” รอบ 16 ปี โอกาสช็อปของถูกก่อนเงินไหลกลับรับดอกเบี้ยขาลง

Date Time: 18 มี.ค. 2568 10:48 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยร่วง 11.87% ตั้งแต่ต้นปี 2568 ส่งผลให้ Market Cap. เหลือ 14.6 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าตราสารหนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี บล.เอเซีย พลัส มองว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้นดีราคาถูก ก่อนเงินทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง

การปรับตัวลงแรงของดัชนีตลาดหุ้นไทยกว่า 11.87% ตั้งแต่ต้นปี 2568 ทำให้เม็ดเงินบางส่วนไหลออกไปยังตลาดตราสารหนี้ จน Market Cap. หุ้นไทยเหลือเพียง 14.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ที่มีระดับต่ำกว่ามูลค่าคงค้างตราสารหนี้ไทย โดย บล.เอเซีย พลัส ชี้ให้เห็นว่า ภาวะดังกล่าวอาจเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่มองหา "หุ้นดีราคาถูก" ก่อนที่เงินทุนจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นอีกครั้ง

มาร์เก็ตแคปหุ้นไทยต่ำกว่าตราสารหนี้ ครั้งแรกในรอบ 16 ปี 

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองคือ ขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ของหุ้นไทย ล่าสุดอยู่ที่เพียง 14.6 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าคงค้างของตราสารหนี้ไทยพุ่งขึ้นไปถึง 17.1 ล้านล้านบาท นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2552 ที่ Market Cap. ของตลาดหุ้นไทยต่ำกว่าตราสารหนี้ที่สูงถึง 17.1 ล้านล้านบาท ถึง 2.5 ล้านล้านบาท

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดการณ์ว่า เม็ดเงินจากตราสารหนี้มีโอกาสไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป โดยมี 3 เหตุผลหลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่

  1. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงทั่วโลกรวมถึงไทย ที่มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง เหลือ 1.75% หากตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวตามที่หวังไว้
  2. การออกหุ้นกู้ภาคเอกชนลดลง จากปัญหาธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่มีเรทติ้งต่ำกว่า BBB ซึ่งทาง THAIBMA คาดว่าการออกตราสารหนี้ปีนี้จะอยู่ที่เพียง 8.0-8.5 แสนล้านบาท หรือลดลง 6.9%-12.4% จากปีก่อน
  3. ส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ (Earning Yield Gap : EYG) ของไทยโดดเด่นที่กำไรต่อหุ้น (EPS) 89 บาท/หุ้น อยู่ที่ 7.6% และ MEYG อยู่ที่ 5.6% ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ (MEYG 0.4%) และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ที่มี MEYG ต่ำกว่าไทย

โอกาสเก็บ “ของถูก” หุ้น P/BV ต่ำกว่า 1 เท่าเพียบ

สำหรับในเชิงเทคนิค ดัชนีตลาดหุ้นไทยล่าสุดลงมาอยู่ที่ 1,170 จุด ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย SMA 125 วัน ถึง 206 จุด และหลุดต่ำกว่า -2SD ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดปรับตัวลงอย่างรุนแรงเกินกว่าปกติในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาสลับสถานะเป็นฝั่งซื้อใน SET50 Futures ติดต่อกัน 3 วัน รวมกว่า 42,790 สัญญา บ่งชี้ว่าแรงกดดันจากกระแสเงินทุนไหลออก (Fund Flow) อาจเริ่มลดลง

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นที่มี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า และมี Earning Yield มากกว่า 4% โดยหุ้นเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ BCP, TOP, AP, SPALI, SIRI, PTTEP, BBL, PTT, TU, LH, CPF, JMART, SCGP, SCC, STECON เป็นต้น


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Money

แบบสำรวจพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่

หลักสูตรความรู้ทางการเงิน ควรมีการเรียน/ การสอน ช่วงไหน

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)