เวียนมาถึงอีกครั้งสำหรับ 1 ใน 2 งานแสดงและจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ประดับยนต์ ที่ยิ่งใหญ่สุดของไทย
นั่นคือ งาน “มหกรรมยานยนต์” หรือ “มอเตอร์เอ็กซ์โป” ซึ่งจะจัดทุกช่วงปลายปี ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี จัดโดยค่ายสื่อสากล หนึ่งในเจ้าพ่อสื่อสายยานยนต์ โดยมีนิตยสารยานยนต์หลากหลายหัว รวมทั้งสื่อออนไลน์ด้านยานยนต์
สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ปีนี้ ถือเป็นครั้งที่ 41 มีชื่อทางการว่า งาน Thailand International Motor Expo 2024 ครั้งที่ 41 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “Motor Expo 2024 ครั้งที่ 41” (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2024) มีกำหนดจัดกระหึ่มระหว่าง 29 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2567 นี้ สถานที่จัดงานยังคงเป็นที่ “อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี”
งานปีนี้มากับคอนเซ็ปต์จัดงาน คือ “จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม ยานยนต์ล้ำอนาคต” เพราะจะมีหลายค่ายรถยนต์และค่ายรถจักรยานยนต์เตรียมนำนวัตกรรมยานยนต์ล้ำสมัย โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถวิ่งได้ไกลมากขึ้น
งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 จะเป็นงานที่ตอกย้ำความเป็นมหาอำนาจด้านยานยนต์ของจีน โดยเฉพาะนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่จีนตอนนี้ถือว่าโดดเด่นสุดทั้งเรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยีและราคาที่เร้าใจ รวมทั้งการออกแบบที่ล้ำยุค ทำเอาค่ายรถยนต์ชาติอื่นๆ ที่เคยโดดเด่นเรื่องยานยนต์ต้องถอดใจ เพราะไม่อาจจะต่อกรจีนได้ในเรื่องนวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 จะเห็นค่ายรถยนต์จีนเข้ามายึดพื้นที่จัดงานมากขึ้น โดยค่ายรถจีนแต่ละรายจะมีไม่ต่ำกว่า 2 แบรนด์ที่เข้ามาจับจองพื้นที่ในงาน แทบจะเรียกได้ว่าปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ค่ายรถยนต์จีนเข้ามากินพื้นที่มากเกินครึ่งของในส่วนโซนรถยนต์ของงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 นั่นหมายความว่าค่ายรถยนต์จีนได้เข้ามารุกคืบตลาดรถยนต์ในไทยเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ค่ายรถยนต์สัญชาติอื่นที่ไม่ใช่จีน ซึ่งเดิมเป็นเจ้าตลาดหรือมีพื้นที่ในตลาดเมืองไทยที่มั่นคง อย่างค่ายรถญี่ปุ่น ค่ายรถยุโรป เริ่มค่อยๆ ถดถอยหรือหดหายไปเรื่อยๆ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 เราจะได้เห็นแบรนด์รถยนต์จีนหน้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น นอกเหนือจากที่เราคุ้นตา อย่าง BYD MG เกรทวอลล์มอเตอร์ หรือ GWM ที่มาในนามแบรนด์ Haval และ Ora รวมทั้ง NETA Deepal AVATR AION ZEEKR และ Xpeng
โดยแบรนด์จีนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา โดยเลือกเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ก็คือ LeapMotor, รถกระบะไฟฟ้า RIDDARA, รถกระบะและรถบรรทุก King Long, OMODA และ JAECOO (ในเครือกลุ่มเฌอรี่), GEELY, รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ JY AIR ของจูนเหยา กรุ๊ป (Juneyao Group) เป็นต้น
ที่น่าสนใจ คือ ค่ายรถยนต์จีนที่เข้ามางานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ส่วนใหญ่จะจับจองพื้นที่ในงานที่มีขนาดใหญ่ ทำเอาค่ายรถญี่ปุ่น ค่ายรถยุโรป ค่ายรถสหรัฐ และค่ายรถเกาหลีใต้ถึงกับกร่อยลงไม่น้อย สะท้อนภาพความมาแรงของอุตสาหกรรมยานยนต์จีนที่กำลังกลืนกินตลาดรถยนต์ในไทยเพิ่มมากขึ้น
มีอาวุธสำคัญคือ รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ซึ่งครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ที่โดดเด่นทั้งเทคโนโลยี การออกแบบ และราคา
โดยปัญหาการรุกคืบของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จีนนั้น ไม่ได้จำกัดเฉพาะตลาดรถยนต์บ้านเราแต่ยานยนต์จีนได้ค่อยๆ ยึดตลาดรถยนต์ในทั่วโลก ทำเอาหลายประเทศต้องตั้งกำแพงภาษีเพื่อเตะสกัดการไหลบ่าท่วมทะลักของกองทัพรถยนต์จีน เช่น ยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกา
ช่วงนี้จึงอย่าแปลกใจที่จะมีข่าวการเลย์ออฟพนักงานของค่ายรถยนต์ระดับบิ๊กเบิ้มทั้งค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯ เพราะนอกจากมีปัญหาเศรษฐกิจตกสะเก็ดในทั่วโลก ทำให้ตลาดรถยนต์พลอยซบเซาแล้ว ยังต้องมาโดนค่ายรถยนต์จีนที่มีอาวุธเด็ดคือรถยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยและราคาถูกมาตีตลาด โดยเฉพาะที่ตลาดรถในประเทศจีน ได้ถูกค่ายรถจีนทวงคืนตลาดเรียบร้อย
เห็นได้จากแค่เพียงในรอบ 24 ชั่วโมงของวันพุธ 7 พ.ย. ต่อเนื่องถึงวันพฤหัสบดี 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ก็มีข่าว 3 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกประกาศเลย์ออฟพนักงานล็อตใหญ่นั่นคือ กลุ่ม Stellantis, Nissan Motor Co. และหน่วยงาน Audi ของ Volkswagen ได้ประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานรวมกันถึง 14,600 คนในทั่วโลก แบ่งเป็นการเลิกจ้างพนักงาน 1,100 คนในโรงงาน Jeep ของ Stellantis ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา, การเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คนใน Nissan และการเลิกจ้างพนักงาน 4,500 คนใน Audi ในเยอรมนี
ตลาดรถยนต์ยามนี้จึงถือว่าเป็นยามยากของบรรดาค่ายรถบิ๊กเบิ้มทั้งหลาย!!!
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney