อินเดียเสน่ห์แรงจัดจีดีพีพุ่งปรี๊ด

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

อินเดียเสน่ห์แรงจัดจีดีพีพุ่งปรี๊ด

Date Time: 1 ก.พ. 2567 06:30 น.

Summary

  • กระทรวงการคลังอินเดียยังได้แถลงถึงการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของอินเดียว่า ประเด็นสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดียในอนาคต ได้แก่ การศึกษา สุขภาพ ความมั่นคงทางด้านพลังงาน การลดภาระการปฏิบัติตามกฎระเบียบสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และปรับปรุงความสมดุลทางเพศในตลาดแรงงาน

Latest

ตลาดหุ้นอินเดีย สะเทือนครั้งใหญ่  หลังสหรัฐฯ ฟ้อง Gautam Adani ข้อหาฉ้อโกง กองทุนโลก จ่อเทขายเพิ่ม

เศรษฐกิจไทยยามนี้ จีดีพีต่ำเตี้ยจนไร้เสน่ห์ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยกันกระหน่ำ ขนเงินออกไปลงทุนที่ประเทศอื่น ประเทศที่มีเสน่ห์แรงที่สุดในเวลานี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน ประเทศ “อินเดีย” ต้นตำรับมหากาพย์รามเกียรติ์ นาร้าย...นารายณ์ นั่นเอง เมื่อวานนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า กระทรวงการคลังอินเดียแถลงถึงจีดีพีปี 2566 ที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 7.3% ทำให้อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลก สูงกว่าคาดการณ์ 6.3% ของบลูมเบิร์ก และคาดว่า มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเกิน 7% ในปีงบประมาณหน้าที่จะเริ่มในเดือนเมษายน

กระทรวงการคลังอินเดีย แถลงด้วยว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตในปีต่อๆไปในอัตราที่สูงกว่า 7% จาก ความแข็งแกร่งของภาคการเงิน และ การปฏิรูปโครงสร้างด้านอื่นๆ เมื่อเร็วๆนี้และในอนาคต มีเพียงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้นที่เป็นประเด็นน่าเป็นห่วง

กระทรวงการคลังอินเดียยังได้แถลงถึงการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของอินเดียว่า ประเด็นสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดียในอนาคต ได้แก่ การศึกษา สุขภาพ ความมั่นคงทางด้านพลังงาน การลดภาระการปฏิบัติตามกฎระเบียบสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และปรับปรุงความสมดุลทางเพศในตลาดแรงงาน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องที่เอกชนไทยและนักวิชาการไทยได้เรียกให้รัฐบาลไทยปฏิรูปโครงสร้างมานานแล้ว แต่ 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอะไรเลย แต่จมปลักอยู่กับระบบรัฐราชการจนเศรษฐกิจไทยเป็นง่อยไม่สามารถเติบโตได้มากกว่า 3% ทำให้นักลงทุนไทยและต่างชาติสิ้นหวัง เทขายหุ้นไทยไปมากมาย ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยพลอยไร้เสน่ห์ไปด้วย

ในขณะที่ ตลาดหุ้นอินเดีย กลับหอมหวานยิ่ง นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนกันมากมาย กลัวตกรถ ตลาดหุ้นอินเดียให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 20% แถมยังมี หุ้นเทคโนโลยี มากมาย

นาย V Anantha Nageswaran หัวหน้าทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลอินเดีย กล่าวในรายงานว่า รัฐบาลอินเดียได้เพิ่มรายจ่ายด้านการลงทุนเกือบ 1 ใน 3 ต่อปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านถนน ท่าเรือ และโรงไฟฟ้า นอกจากจะทำให้ระบบธนาคารมีความแข็งแกร่งและการออมในครัวเรือนดีแล้ว ยังทำให้อินเดียมีสถานะที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต การเติบโตที่สูงขึ้น จะผลักดันให้อินเดียทะยานขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจ 7 ล้านล้านดอลลาร์ 245 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 จากขนาดเศรษฐกิจ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

เห็นความทะเยอทะยานของ รัฐบาลอินเดีย ที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคนแล้ว ผมก็ได้แต่ชื่นชม นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย เพียง 10 ปีที่เขาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เขาสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจอินเดียจากหลังมือเป็นหน้ามือ จนเป็นที่กล่าวขวัญและจับตาของนักลงทุนทั่วโลก ในขณะที่ 10 ปีของไทยในช่วงเดียวกัน กลับเป็น Lost Decade หนึ่งทศวรรษที่สูญหายไป เศรษฐกิจไทยไม่ได้ก้าวหน้าไปไหน แถมยังล้าหลังจนวิ่งไม่ได้ จีดีพีโตได้แค่ปีละ 2–3% เพราะติดกับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ล้าหลังไม่มีการปฏิรูป

อินเดีย กำลังจะมี เลือกตั้งใหญ่ในช่วงเดือนเมษายน–พฤษภาคม ปีนี้เกจิทุกสำนักต่างคาดกันล่วงหน้า นายนเรนทรา โมดี จะคว้าชัยอีกครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียสมัยที่ 3 เพื่อสานต่อนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของเขาที่ทำสำเร็จมาแล้ว ซึ่งจะเพิ่มเสน่ห์ให้อินเดียเป็นที่เย้ายวนขึ้นไปอีก มีการคาดกันว่า เศรษฐกิจอินเดียจะก้าวข้ามเยอรมนีขึ้นมาเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลกภายในปี 2025

ผมก็ฝาก ความสำเร็จของอินเดีย ให้ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ดูเป็นตัวอย่างครับ

ถ้าไม่เร่ง ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่ล้าหลัง โดยเฉพาะการศึกษาที่ล้าหลัง จีดีพีไทยจะไม่มีวันไปถึง 5% อย่างที่หวังแน่นอน แถมคนไทยจะยากจนขึ้นกว่าเดิมอีก.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ