นับตั้งแต่การเปิดพรมแดนจีน-ฮ่องกง หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ได้สร้างความหวังให้กับรัฐบาล และภาคการปลีกในฮ่องกง ว่าการเปิดประเทศจะช่วยดึงให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซา จากการตกต่ำของภาคอสังหาริมทรัพย์
แต่การเปิดประเทศกลับให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม ค่าครองชีพที่แพงขึ้น และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฮ่องกง ผลักดันให้คนฮ่องกงหันไปท่องเที่ยว และใช้จ่ายในจีนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ชาวฮ่องกงหลายพันคนนิยมจองทัวร์ ไปยังศูนย์ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ในจีน เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก
Heron Lim นักเศรษฐศาสตร์ที่ Moody's Analytics คาดการณ์ว่า ในปี 2566 ชาวฮ่องกงมีการใช้จ่ายประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกงในจีน(2.2 แสนล้านบาท) หรือคิดเป็น 12.5% ของคาดการณ์มูลค่าการค้าปลีกฮ่องกงในปีนี้ นอกจากนี้จำนวนผู้ที่จองทัวร์จากฮ่องกงไปยังจีนยังเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2566 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด
Michelle Lam, นักเศรษฐศาสตร์จาก Société Générale กล่าวว่า
"แนวโน้มการใช้จ่ายของชาวฮ่องกง ในจีนแผ่นดินใหญ่จะเร่งตัวขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าที่น่าดึงดูดในสถานที่ต่างๆ เช่น เซินเจิ้น ซึ่งอาจทําให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของฮ่องกงลดลงมากถึง 1% ในปี 2567"
อีกปัจจัยที่น่ากังวลคือ กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวลง เนื่องจากความน่าดึงดูดของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการช็อปปิ้งน้อยลง ทำให้คนจีนหันไปใช้จ่ายซื้อสินค้าที่อื่นแทน รวมถึงการกลับไปช็อปปิ้งในประเทศ โดยเฉพาะในมณฑล “ไห่หนาน” เกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ที่รัฐบาลจีนหวังปั้นให้เป็นศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสร้าง ห้างสรรพสินค้าปลอดภาษีเพื่อดึงดูดผู้บริโภคควบคู่กับการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกด้วย
แม้หลังช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนจะมีสัดส่วนมากถึง 80% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในฮ่องกง แต่ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาฮ่องกง ลดลง 40% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 อีกทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่ยังสังเกตเห็นว่าคนจีนมีการใช้จ่ายน้อยลง
Frederic Neumann หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียของ HSBC ให้ความเห็นว่า
"การที่นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายน้อยลง เป็นการตอกย้ำให้ฮ่องกงเร่งพัฒนาบริการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจ ซึ่งฮ่องกงต้องมีจุดขายมากกว่าการเป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งแบรนด์หรู"
อ้างอิง
FTTimes
อ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney