Economics
World Econ
BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ ระดับโลก เตรียมปลดพนักงาน 3% ปรับโครงสร้าง ให้ทันเทคโนโลยี
Date Time: 10 ม.ค. 2567 12:40 น.
“Summary“
- BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก เตรียมปลดพนักงาน 600 คน หรือคิดเป็น 3% ของพนักงานทั้งหมด
- หวังปรับโครงสร้างพนักงานให้เท่าทันเทคโนโลยี ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า
Latest
BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก วางแผนที่จะเลิกจ้างพนักงาน 3% หรือประมาณ 600 คน ของจำนวนพนักงานทั้งหมดทั่วโลก เพื่อจัดสรรทรัพยากรบุคลใหม่ให้กับแผนกที่มีการเติบโตสูง ซึ่งรวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยี กองทุนรวมดัชนี (ETFs) และสินทรัพย์นอกตลาด
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา Larry Fink ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Rob Kapito ประธานบริษัท กล่าวในบันทึกถึงพนักงานว่า บริษัทกําลังปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม จำนวนพนักงานทั้งหมดจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากระดับปัจจุบันที่ 20,000 คน
โดยกองทุนรวมดัชนี หรือ ETFs ได้กลายเป็นที่ต้องการในฐานะเครื่องมือลงทุน สำหรับกลยุทธ์การลงทุนทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ขณะที่บริษัทกำลังขยายตัวไปทั่วโลก ทั้งในยุโรปและเอเชีย
“ภายในสิ้นปี 2567 เราคาดว่าจะมีพนักงานจํานวนมากขึ้น ในขณะที่เรายังคงเพิ่มบุคลากร และสร้างเสริมประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของหน่วยธุรกิจหลัก”
“เราจําเป็นต้องมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ในการให้บริการลูกค้าและแนวทางจัดการทรัพยากรของเรา โดยต้องเพิ่มการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และการจัดสรรทรัพยากรบุคคลใหม่ เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้า และโอกาสในการเติบโตให้มากที่สุด”
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทจัดการสินทรัพย์ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลง ของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ในช่วงปี 2565 ต่อมาในปี 2566 เมื่อธนาคารกลางทั่วโลก เริ่มขึ้นดอกเบี้ยในระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อรักษาอัตราผลกำไร บริษัทต่างๆ จึงต้องแข่งขันกันลงทุนด้านเทคโนโลยี ดึงดูดลูกค้า ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม 2566 BlackRock ได้ประกาศปลดพนักงาน 2.5% หรือประมาณ 500 คนทั่วโลก และประกาศลดพนักงานเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน ซึ่งคิดเป็นจำนวนน้อยกว่า 1% ของพนักงานทั้งหมด และปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการทั้งหมด (AUM) 9.1 ล้านล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566)
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน หุ้นของ BlackRock ปรับตัวลดลง 1.8% หลังจากเพิ่มขึ้น 15% ในปี 2566 โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุน คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยและจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อ้างอิง
อ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ กับ Thairath Money ได้ที่
Author