นักลงทุนจีนเทขายพันธบัตรและหุ้นสหรัฐฯ มากที่สุดในรอบ 4 ปี ในเดือนสิงหาคม กระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจเป็นการเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีน เพื่อปกป้องค่าเงินหยวน
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผย เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า นักลงทุนจีนเทขายพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (7.6 แสนล้านบาท) โดยกองทุนในประเทศเอเชีย ยังลดการถือครองพันธบัตรรัฐวิสาหกิจของสหรัฐฯ
โดยนักลงทุนจีนขายหุ้นสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์ (1.8 แสนล้านบาท) ในเดือนสิงหาคม แม้ว่ากองทุนจีนจะเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ก็มีการซื้อพันธบัตรรัฐวิสาหกิจในจำนวนที่มากกว่า หรือเทียบเท่า ซึ่งสร้างความสับสนในหมู่นักลงทุน
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ค่าเงินหยวนที่ซื้อขายในประเทศ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2565 ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลจีน สั่งการให้ธนาคารของรัฐบาล เข้าแทรกแซงตลาดเงินตราต่างประเทศเพื่อเร่งสกัดความผันผวนของเงินหยวน
การที่พันธบัตรสหรัฐฯ ถูกขายออกอย่างหนักอีกครั้งในปีนี้ เป็นผลมาจากตลาดแรงงานและเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งเกินคาด กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คงดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าคาด
ในขณะที่ดัชนีพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของ Bloomberg ชี้ให้เห็นว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขาดทุนเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2549 ในสัปดาห์นี้
อ้างอิง