สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 พบขยายตัว 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเติบโตมากกว่าประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์ แต่ขยายตัวน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 6.3%
โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงเดือนกันยายน ที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าคาดการณ์ โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือนกันยายน เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ที่ 4.3% และทรงตัวจากเดือนสิงหาคม
ด้านการเติบโตของยอดค้าปลีกในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 5.5% เร่งตัวขึ้นจากระดับ 4.6% ในเดือนสิงหาคม และมากกว่าคาดการณ์ที่ 4.9%
สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 มีการเติบโตได้น้อยกว่าที่คาด โดยเพิ่มขึ้น 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่า ที่ 3.2%
แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน จะมีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ของรัฐบาลจีน แต่วิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ฉุดรั้งศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจจีน
โดยการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 หดตัวลง 9.1% ยอดขายบ้านตามพื้นที่ลดลง 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ลดลงเกือบ 24% สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์
อ้างอิง