แม้เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ที่ 4.5% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ได้สูญเสียแรงกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงแรกของไตรมาสที่ 2 เนื่องจากต้องเผชิญกับปัญหาความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกที่ยังไม่ดีนัก ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นในเด็กจบใหม่
รัฐบาลจีนจึงพยายามใช้มาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโตลง เพื่อลดความเสี่ยงในระดับที่อาจทำให้เศรษฐกิจจีนไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ 5% ในปีนี้ได้ โดยเฉพาะมาตรการทางการเงินจากธนาคารกลาง
โดยตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ออกมาตรการให้ธนาคารขนาดใหญ่ในจีนหลายแห่ง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมและลดแรงกดดันต่ออัตราการทำกำไรของธนาคาร ผลักดันการออมไปสู่การบริโภคและการลงทุน โดยให้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกระแสรายวันลง 0.05% และดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 ปี และ 5 ปี ลง 0.15% ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ภายในรอบ 1 ปี ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
สำหรับสัปดาห์นี้ เมื่อที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดสภาพคล่องจำนวน 2 พันล้านหยวน (280 ล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบธนาคาร และปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น Reverse Repurchase ระยะ 7 วัน ลง 0.10% สู่ระดับ 1.9% จากระดับ 2.0% ซึ่งเป็นปรับลดอัตราเอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดย Reverse Repurchase เป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต นอกจากนี้ทางการจีนยังเตรียมพิจารณาที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ
ต่อมาในวันที่ 15 มิถุนายน ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนลง 0.10% สู่ระดับ 2.65% จากระดับ 2.75% ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องจำนวน 237 พันล้านหยวน (33 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบธนาคาร เพื่อเพิ่มการปล่อยกู้ของธนาคารทำให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ธนาคารกลางจีน ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี (LPR) จะถึงที่มีกำหนดประกาศในวันที่ 20 มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ในวันเดียวกันกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ยังได้ประกาศแผนการที่จะขยายโครงการนำร่องกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไปในอีกหลายเมืองทั่วประเทศจีน ผ่านการใช้ระบบคะแนนความประพฤติ โดยประชาชนที่มีคะแนนความประพฤติดี จะสามารถนำคะแนนไปแลกรับตั๋วฟรีเพื่อเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นและภูมิภาคได้ เช่นเดียวกับบริษัทท่องเที่ยวที่มีคะแนนอยู่ในเกณฑ์ดีก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงครึ่งหนึ่งจากอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน