วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลก แสดงความเห็นถึงประเด็นการลดบทบาทของสกุลเงินดอลลาร์ (De-Dollarizaiton) ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยย้ำว่า สกุลเงินดอลลาร์จะยังเป็นสกุลเงินหลักของโลก และไม่เห็นตัวเลือกสกุลเงินอื่นๆ ที่จะมาทดแทนได้ในเวลานี้
บัฟเฟตต์ กล่าวถึงวิกฤติในภาคธนาคารที่เกิดขึ้นว่า คณะกรรมการและผู้บริหารธนาคารทั้ง First Republic Bank และธนาคารอื่นที่ล้มก่อนหน้านี้ควรรับผิดชอบและมีบทลงโทษจากการบริหารที่ล้มเหลว และยังออกโรงเตือนการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า “การพิมพ์เงินต่อเนื่องเป็นสิ่งที่บ้ามาก” การอัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อรองรับผลกระทบวิกฤติการเงินเฟ้อและช่วงเศรษฐกิจชะงักงันจากการระบาดใหญ่ของโควิด อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อค่าเงินดอลลาร์ และเพิ่มความกลัวของคนในการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ
โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยกดดันผู้บริโภคและธุรกิจ ผู้คนจะเริ่มกังวลถึงเงินฝากธนาคาร และมากไปกว่านั้นคือ การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลในครั้งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก บัฟเฟตต์ ย้ำว่า ต้องทำให้ผู้คนเชื่อมั่นว่าเงินออมของพวกเขาจะยังรักษากำลังซื้อส่วนใหญ่ไว้ได้ หากไม่เช่นนั้นอาจลุกลามและเกิดการหยุดชะงักทั่วโลก
“ความล้มเหลวของธนาคาร Silicon Valley และ Signature Bank ตามมาด้วยการควบรวมกิจการอย่างฉุกเฉินระหว่างธนาคาร UBS และ Credit Suisse และการที่ JPMorgan เข้าซื้อกิจการ First Republic Bank การดำเนินการเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดวิกฤติสินเชื่อที่จะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐฯ”
อย่างไรก็ตาม บัฟเฟต์ มองว่า ดอลลาร์สหรัฐ จะยังไม่สูญเสียสถานะเป็นสกุลเงินสำรองของโลกเป็นที่แน่นอน และยังไม่มีเงินสกุลใดที่จะก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกแทนที่ดอลลาร์สหรัฐได้ในเวลานี้.
อ้างอิง Market Insider1 , Market Insider2