“เฮียฮ้อ” รีแบรนด์อาร์เอสปีหน้า ปรับภาพรองรับการขยายตัวสู่ธุรกิจใหม่

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“เฮียฮ้อ” รีแบรนด์อาร์เอสปีหน้า ปรับภาพรองรับการขยายตัวสู่ธุรกิจใหม่

Date Time: 21 มิ.ย. 2560 06:40 น.

Summary

  • “อาร์เอส” เตรียมรีแบรนด์ธุรกิจครั้งใหญ่ต้นปีหน้า รองรับการขยายตัวของธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจสื่อและธุรกิจสุขภาพความงาม มั่นใจเดินมาถูกทาง หลังธุรกิจสุขภาพ–ความงามโตวันโตคืน ขยายตัว 600% คาดกินสัดส่วนรายได้สูงกว่าธุรกิจ

Latest

ลุยสอบโรงแรม-อสังหา-คลังสินค้าเพียบ กลุ่มเสี่ยงนอมินี 2.68 หมื่นราย

“อาร์เอส” เตรียมรีแบรนด์ธุรกิจครั้งใหญ่ต้นปีหน้า รองรับการขยายตัวของธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจสื่อและธุรกิจสุขภาพความงาม มั่นใจเดินมาถูกทาง หลังธุรกิจสุขภาพ–ความงามโตวันโตคืน ขยายตัว 600% คาดกินสัดส่วนรายได้สูงกว่าธุรกิจสื่อภายในปีหน้า

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังปรับให้กลุ่มธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health and Beauty) ภายใต้บริษัท ไลฟ์สตาร์ ขึ้นเป็นธุรกิจหลัก ควบคู่กับธุรกิจสื่อ ถือว่าเป็นการปรับแผนธุรกิจใหม่ที่มาถูกทางแล้ว เพราะธุรกิจสุขภาพและความงามเติบโตเร็วมาก สิ้นปี 60 คาดว่าจะทำได้ทะลุ 1,200 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำได้ 440 ล้านบาท เติบโต 600% จากปี 59 ที่ทำได้ 220 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 40% ของยอดรายได้รวมบริษัท ที่คาดว่าสิ้นปี 60 จะทำได้ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่ทำได้ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจสื่อ ที่มีช่อง 8 เป็นหัวหอกมีสัดส่วนรายได้ 60% หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท

“ครึ่งปีแรกผลประกอบการของบริษัทถือว่าทรงๆ ได้รับผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจบ้าง โดยเฉพาะธุรกิจสื่อ ช่อง 8 ที่พลาดเป้าหรือต่ำกว่าเป้าหมาย 5% เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณายังไม่กลับมาอย่างที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ช่อง 8 ยังมีจำนวนคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าสิ้นปีจะมีมากถึง 500,000 คนต่อนาที จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 430,000-440,000 คนต่อนาที ที่หลายคนมองว่าภาพรวมธุรกิจสื่อ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไม่ดูทีวีหรือดูทีวีน้อยลง หันไปอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นนั้น ภาพรวมผมเห็นด้วย แต่หากมองให้ลึก โทรทัศน์หลายช่องยังมีอัตราการเติบโต มีจำนวนคนดูเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มคนดูโทรทัศน์ที่หายไป คือกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 30 ปี ขณะที่กลุ่มคนที่ยังดูโทรทัศน์ คือ กลุ่มคนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของช่อง 8 จึงเป็นเหตุผลที่ว่าช่อง 8 ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก”

ส่วนการทำตลาดกลุ่มธุรกิจสุขภาพและความงาม ภายใต้บริษัท ไลฟ์สตาร์ ยังคงเน้นทำตลาดใน 3 กลุ่มสินค้า คือ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ภายใต้แบรนด์มาจีค โนเบิล ไวท์ 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์ S.O.M (Science of Body&Mind) ไทม์แคปซูล 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ภายใต้แบรนด์รีไวฟ์ ผ่านช่องทางขายผ่านทีวีหรือ Telesale ทาง Call Center โทร.1781 ประมาณ 85% ออนไลน์ 10% และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ 5% ซึ่งนอกจากขายสินค้าของบริษัทแล้ว ยังมีแผนร่วมกับพันธมิตรนำสินค้าเข้ามาขายผ่านช่องทางดังกล่าวด้วย ซึ่งปัจจุบันมี 1 ราย สิ้นปีจะมีสินค้าใหม่ให้มาช่วยทำตลาด ผ่านช่องทางต่างๆเพิ่มอีก 4 แบรนด์ ความถี่และการใช้จ่ายต่อบิลในการซื้อสินค้าของลูกค้ามีเพิ่มขึ้น คือ ประมาณ 60-90 วันมีการกลับมาซื้อซ้ำ และการซื้อต่อครั้งประมาณ 2,000 บาทในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ประมาณ 1,800 บาทในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

นายสุรชัยกล่าวอีกว่า คาดว่าปีหน้า 2561 สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงคือธุรกิจสุขภาพและความงามจะครองสัดส่วนรายได้สูงกว่าเป็น 60% ส่วนธุรกิจสื่อลดเหลือ 40% แสดงให้เห็นว่าแผนการทำธุรกิจที่จะปั้นช่อง 8 ให้ประสบความสำเร็จและระหว่างทางจะใช้ช่อง 8 สร้างธุรกิจใหม่ทำคู่ขนาน ถือว่าประสบความสำเร็จ ดังนั้นในช่วงต้นปีหน้า อาร์เอสจึงเตรียมแผนที่จะรีแบรนด์หรือปรับภาพธุรกิจใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอาร์เอสที่มีแผนขยายธุรกิจเพิ่มเติมไปสู่กลุ่มอื่นๆนอกเหนือจากที่มีอยู่ โดยคาดว่าในปี 2562 จะขยายการทำธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 ธุรกิจด้วย

“ในมุมมองของผม การทำธุรกิจในภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว เราจะทำอะไรอย่างเดียวไม่ได้ พึ่งพาธุรกิจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วกำลังฆ่าธุรกิจบางธุรกิจ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ