Mr.David Landart ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภาคพื้นเอเชีย Carlin Group ประเทศฝรั่งเศส แนะกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ กลุ่มเป้าหมาย และเทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับในฤดูกาลหน้า (S/S18)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์โลกจากฝรั่งเศสมาร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนาแนวโน้มเครื่องประดับ กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ และการเจาะตลาดสินค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ หัวข้อ “Jewelry Matters: Bangkok Gems & Jewelry Design and Marketing Conference 2017” เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ จี
โดยมี นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ ในฐานะผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน และมีผู้เข้าร่วมฟังสัมมนาจากหลายฝ่าย อาทิ ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ดีไซเนอร์ในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ
ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “การสัมมนาใน 2 วันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเพื่อคว้าโอกาสในตลาดใหม่ๆ โดยกรมฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ Mr. David Landart ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภาคพื้นเอเชีย Carlin Group ประเทศฝรั่งเศส มาให้ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับฤดูกาล Spring/Summer 18 กลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการเล่าเรื่องราวของแบรนด์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ หวังว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานในวันนี้ จะได้เห็นช่องทางในการผลิตสินค้าใหม่ๆ เพื่อดึงดูดใจลูกค้า และการเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ”
Mr. David Landart ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภาคพื้นเอเชีย Carlin Group ประเทศฝรั่งเศส แนะกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ กลุ่มเป้าหมาย และเทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับในฤดูกาลหน้า (S/S18)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น การจัดสัมมนาในครั้งนี้ รวมถึงการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Bangkok Gems & Jewelry Fair ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 60 ในเดือนกันยายนนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ต่อกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลก
มร.เดวิด ได้เผยถึงเทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับในฤดูกาลหน้า หรือ สปริงค์/ซัมเมอร์ 2018 ว่า เทรนด์แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ Rutilant, Sublime Flawless, Black Sunshine และ Carpe Diem
เทรนด์ “Rutilant” ซึ่งเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมอเมริกันและแคริบเบียน ตัวอย่างคือ ศิลปะการออกแบบสไตล์ Memphis ที่โด่งดังในยุค 80 โทนสีจะเน้นใช้สีที่สดใส เร้าอารมณ์ มีความแปลก ไม่ซ้ำใคร
เทรนด์ต่อมาคือ “Sublime Flawless” เน้นความละเอียด ประณีต ความงามของผู้หญิง ถ่ายทอดผ่านลายของลูกไม้ งานปัก มาออกแบบผสมผสานกับหินทำให้ดูอ่อนหวานขึ้น หรือใช้เทคโนโลยี 3D Printing มาช่วยในการออกแบบ โทนสีจะเน้นสีอ่อน สีขาว สีทอง
เทรนด์ที่ 3 คือ “Black Sunshine” เน้นพลังของสีดำและหินแร่ธาตุ โชว์พื้นผิวที่เป็นเอกลักษณ์ โดยได้แรงบันดาลใจจากหินภูเขาไฟ ผสานกับการใช้ความเงางามของสีเงิน เพื่อให้ยังคงความเป็นผู้หญิง
เทรนด์สุดท้ายคือ “Carpe Diem” เน้นการดูแลสุขภาพ โดยใช้แรงบันดาลใจจากสีของผลไม้ รูปทรงดอกไม้ กลีบดอกไม้ เกสรดอกไม้ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โทนสีสดใส ส้ม เหลือง
เนื่องจากลูกค้าหลักของธุรกิจอัญมณีคือ ผู้หญิง ซึ่งมีความซับซ้อนในการเลือกสินค้า การศึกษาเทรนด์แนวโน้มของโลกจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะผู้ผลิตรายเล็ก (SME) ควรมีความเข้าใจลูกค้าในแต่ละตลาด เพราะลูกค้าในแต่ละโซนนั้นมีความชอบแตกต่างกัน แม้กระทั่งตลาดในไทยเองก็แตกต่างจากอาเซียนที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน ดังนั้น การออกแบบจึงต้องมองเชิงลึกอย่างรอบด้าน ทั้งเทรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ มร.เดวิด ได้เจาะลึกถึงประเด็นเกี่ยวกับ “กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย” เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถ “เลือก” และ “โฟกัสในการผลิต” ถ้าเข้าใจและผลิตงานได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายก็จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
จากมุมมองของ มร.เดวิด ได้แบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ ...
• กลุ่ม “Timeless Women” หรือ “Classic Women” กลุ่มนี้ จะสนใจเครื่องประดับที่เน้นคุณภาพสูง และมองว่าการซื้อเครื่องประดับเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยกลุ่มนี้จะชื่นชอบเครื่องประดับที่ สวย หรู เรียบ ไม่ต้องโดดเด่น
• กลุ่ม “Glamour Women” กลุ่มนี้ชอบสินค้าที่สะดุดสายตา เน้นเครื่องประดับที่มีความเงางาม ขนาดใหญ่
• กลุ่ม “Fashionista Women” กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เสพติดกับแฟชั่น เครื่องประดับที่สวมใส่ต้องนำแฟชั่น
• กลุ่มที่ 4 คือ “Romantic Woman” กลุ่มนี้จะใช้อารมณ์ ความรู้สึกในการเลือกสินค้า ชื่นชอบสินค้าที่มีความเป็นผู้หญิงสูง
• กลุ่มสุดท้ายคือ “Modern & Contemporary Women” ผู้หญิงทันสมัย มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็น Working Woman แต่งตัวในสไตล์ Minimalism สินค้าต้องมีดีไซน์และลงตัว กลุ่มนี้มีความซับซ้อนในการเลือกสินค้ามากที่สุด
ในช่วงท้ายผู้เชี่ยวชาญจาก Carlin Group ได้ให้ข้อสรุปอันเป็นกุญแจดอกสำคัญในการที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจเครื่องประดับว่า ต้องเข้าใจและรู้ว่าลูกค้าคือใคร จึงจะออกแบบให้ตรงใจลูกค้าและลูกค้าใช้ได้จริง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศชักชวนผู้ประกอบการที่สนใจขยายโอกาสในเวทีการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทั้งอัพเดตเทรนด์ สมัครเข้าร่วมงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 60 หรือสมัครร่วมจัดแสดงสินค้าในส่วนนิทรรศการ The New Showcase ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 กันยายน 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร. 0 2507 8392-3 อีเมล bkkgems@ditp.go.th หรือ www.bkkgems.com