กรมทรัพย์สินทางปัญญา หนุนนักประดิษฐ์ คิดค้นนวัตกรรมตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ หลังยูเอ็นระบุไทยจะมีประชากรผู้สูงอายุ 19.5 ล้านคนในปี 73 เล็งสำรวจผลงานสิทธิบัตรทั่วโลก ก่อนแนะนำให้ผู้ประกอบการไทยต่อยอด ผลิตเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์...
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดลดลง และอายุเฉลี่ยของประชากรยืนยาวขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับนานาประเทศ กรมจึงต้องช่วยผลักดันให้มีการประดิษฐ์ คิดค้น สินค้าที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้สูงอายุที่กำลังจะมากขึ้น โดยข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ไทยมีโครงสร้างประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นลำดับที่ 3 ในเอเชียรองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และคาดว่า ในปี 73 จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเป็น 19.5 ล้านคน
“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรดังกล่าว เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจทั้งในระดับชาติและระดับโลก หากไม่เตรียมความพร้อมให้ดี ผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงในการดำรงชีวิต มีปัญหาภาระต่อสังคม ซึ่งนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ จึงเป็นสิ่งที่หลายประเทศให้ความสำคัญในการนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิต และการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้สังคมและเศรษฐกิจได้ต่อไป”
นายทศพล กล่าวว่า กรมในฐานะที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนให้มีการประดิษฐ์ คิดค้น นวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ มีแผนผลักดันให้นักประดิษฐ์ นักวิจัย คิดค้นงานประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ โดยจะสำรวจผลงานสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุจากทั่วโลกว่ามีอะไรบ้าง และมีผลงานอะไรที่สามารถนำมาต่อยอดและพัฒนาได้ จากนั้นจะผลักดันให้ผู้ประกอบการของไทยนำไปพัฒนาต่อยอด เพื่อผลิตเป็นสินค้าออกมาใช้ในเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการของไทยได้ประดิษฐ์ คิดค้นผลงานนวัตกรรมที่ใช้ในการดูแลผู้สูงอายุขึ้นมาบ้างแล้ว เช่น อุปกรณ์ช่วยเดิน ถุงมืออัจฉริยะ ที่ใช้ช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุในการตรวจหาวัตถุในระยะที่กำหนด โดยกรมจะผลักดันให้มีการคิดค้นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุให้เพิ่มมากขึ้นต่อไป
สำหรับนิยาม สังคมผู้สูงอายุ ยูเอ็นได้กำหนดไว้ว่า ประเทศใดมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เกินกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด จะถือว่าประเทศนั้นได้ก้าวเข้าเป็นสังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ เมื่อมีผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด