Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

โออาร์เล็งลงทุน 5 ปี 6 หมื่นล้าน “ปกทอง” ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำมันให้ได้ 40%

Date Time: 1 ก.พ. 2568 09:34 น.

Summary

  • ซีอีโอโออาร์คนใหม่ประกาศวิสัยทัศน์ ดันไทยเป็นศูนย์กลางน้ำมันแห่งภูมิภาค ชิงส่วนแบ่งตลาดค้าน้ำมันกลับมาที่ระดับสูงสุด 38–40% ภายใน 2 ปี เดินหน้าลุยธุรกิจ 4 เสาหลัก ตั้งเป้าลงทุน 5 ปี 6 หมื่นล้านบาท ปีนี้ลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท

ซีอีโอโออาร์คนใหม่ประกาศวิสัยทัศน์ ดันไทยเป็นศูนย์กลางน้ำมันแห่งภูมิภาค ชิงส่วนแบ่งตลาดค้าน้ำมันกลับมาที่ระดับสูงสุด 38–40% ภายใน 2 ปี เดินหน้าลุยธุรกิจ 4 เสาหลัก ตั้งเป้าลงทุน 5 ปี 6 หมื่นล้านบาท ปีนี้ลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท

หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนใหม่ บริษัท ปตท. น้ำมันและค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ เปิดเผยวิสัยทัศน์ในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ว่า พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth : เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” โดยปี 2568 เตรียมเงินลงทุน 19,000 ล้านบาท จากแผนลงทุน 5 ปี 2568-2572 รวม 60,000 ล้านบาท โดยปีนี้เน้นการลงทุน 4 เสาหลัก แบ่งเป็นธุรกิจโมบิลิตี้ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) สถานีชาร์จ 7,600 ล้านบาท ธุรกิจไลฟ์สไตล์ 7,300 ล้านบาท ที่เหลือจะลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และธุรกิจต่างประเทศที่ยังเน้นการลงทุนในประเทศกัมพูชา ส่วนในประเทศเมียนมาจะหยุดไว้ก่อน โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 2-3% ตามการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แต่ที่ผ่านมาโออาร์สามารถโตได้ปีละ 3-4%

“ปีนี้โออาร์ตั้งเป้าหมายชิงส่วนแบ่งตลาดกลับมาที่ระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ 38-40% ระหว่างดำรงตำแหน่งอยู่ในวาระ 2 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 35-36% เพื่อคงตำแหน่งเป็นอันดับหนึ่งของตลาดค้าน้ำมันของไทย รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านพีทีทีสเตชั่นไปสู่โออาร์สเปซ จะเน้นการลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี ปีนี้คาดว่าจะลงทุนใกล้เคียงกับปี 2567 มูลค่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 1,000 แห่ง ตามนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้ามีหัวชาร์จ 7,000 หัวทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี ลดลงจากเป้าเดิม 12,000 หัว เนื่องจากอัตรากำลังการผลิตรถยนต์อีวีลดลง โออาร์จึงตั้งเป้าหมายมีหัวชาร์จ 5,000 หัวภายในปี 2573 คาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 7 ปีตามแผน”

ส่วนของแนว ทางการปรับลดราคาน้ำมันตามนโยบายของรัฐบาล ไม่เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะไทยผลิตน้ำมันได้เพียงแค่ 15% ของความต้องการในประเทศ ราคาขาย ปลีกน้ำมันควรเป็นไปตามกลไกตลาด สิ่งสำคัญคือ คนไทยควรจะต้องตระหนักว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ซื้อน้ำมันเข้ามาเป็นการไหลออกของเงินจากประเทศไทย คนไทยต้องประหยัด เสียดุลการค้าน้อยลง

หม่อมหลวงปีกทองกล่าวว่า นับจากนี้จะใช้ดิจิทัลและนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน องค์กรเพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางน้ำมันแห่งภูมิภาค (Oil Hub) ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจร ภายใต้แนวคิด “They grow We grow” เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนผ่าน 3 พันธกิจ ได้แก่ 1.Seamless Mobility มุ่งเสริมความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมัน ผ่านการขยายเครือข่ายสถานีบริการ และเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาสู่พลังงานทางเลือก เช่น สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Staion Pluz และการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้กลยุทธ์ Thailand Mobility Partner ในการเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจน้ำมัน สู่ธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน

2.All Lifestyles มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของร้านคาเฟ่อเมซอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน พร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุนร่วมกับพันธมิตรในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเริ่มศึกษาธุรกิจสุขภาพและความงามที่มีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์กระจายพอร์ตการลงทุน และ 3.Global Market ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพสูง โดยมีแผนลงทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งในโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศ

“ผมจะเน้นใช้ดิจิทัลขับเคลื่อนการลงทุน ซึ่งแผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ของปีนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้โออาร์แสวงหารายได้แหล่งใหม่ๆ”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Poll

สำรวจข้อมูลทางประชากรศาสตร์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์

ตำแหน่งงานปัจจุบันของคุณคืออะไร

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)