รัฐเริ่มแจกเงินหมื่นผู้สูงอายุ 27 ม.ค. ทุนระดับโลกรุมลงทุน “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ไทยเนื้อหอม กลุ่มทุนระดับโลก 6-7 ราย รุมสนใจลงทุน “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ระยะแรกใช้เงินลงทุน 100,000 ล้านบาทต่อราย ย้ำเป็นการลงทุนใหม่ทั้งหมดในพื้นที่ของรัฐ 300 ไร่ ทำเลดี ขนส่งสะดวก “กรุงเทพฯ–พัทยา–ภูเก็ต– เชียงใหม่” ขณะที่ รมว.คลัง แจ้งแจกเงินหมื่นผู้สูงอายุ เริ่ม 27 ม.ค.นี้

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ระดับโลก 6-7 ราย แสดงความสนใจที่จะลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทย เนื่องจากเรามีความพร้อมในทุกๆด้าน อาทิ ระบบคมนาคมสะดวก มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นต้น โดยทำเลที่นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนมีหลายแห่ง อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาการออกกฎหมายราว 7-9 เดือน หลังจากนั้นเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะมีการตั้งคณะกรรมการนโยบาย ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานและมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาทำเลที่ตั้ง และจำนวนใบอนุญาต โดยระยะเวลาการอนุญาตกำหนดไว้ 30 ปี ต่ออายุได้อีก 10 ปี อัตราค่าบริการต่างๆ

นอกจากนั้น จะมีคณะกรรมการกำกับดูแลช่วยตรวจสอบการโกง ปราบปรามให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้อง ซึ่งจะมีข้าราชการระดับปลัดกระทรวงเป็นประธาน ส่วนของสำนักงานจะเป็นการดำเนินการด้านเอกสารและรายละเอียดทั้งหมดของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะเห็นการลงทุน หรือการตอกเสาเข็มการก่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน

“ผมขอย้ำว่า เงื่อนไขการลงทุนนั้น จะเป็นการลงทุนและก่อสร้างใหม่ในพื้นที่ใหม่บนพื้นที่ของรัฐที่ดินราว 300 ไร่ ที่มีทั้งโรงแรมระดับ 6 ดาว มากกว่า 4-5 แห่ง 5,000 ห้อง สวนสนุกขนาดใหญ่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ และจัดคอนเสิร์ตได้ตลอดทั้งปี หรือ กิจกรรมอื่นๆ ขณะที่ส่วนของกาสิโนนั้น จะมีเพียง 3-5% เท่านั้น เพราะฉะนั้น การลงทุนแต่ละแห่งจะใช้เงินมากกว่า 100,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3-5 ปี คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในปีที่ 3 ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายจะให้เปิดบริการภายในปี 2572 ก่อนที่ศูนย์เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในเมืองโอซากาจะเปิดบริการ ส่วนอีกแห่งที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ยังไม่มีกำหนดว่าจะเปิดเมื่อใด”

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า จากโมเดลการศึกษาของสิงคโปร์ พบว่าตลอด 15 ปีของการดำเนินการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (ปี 2548-2563) พบว่า การพนันนอกระบบหายไปเกือบครึ่ง ขณะที่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 50% ดังนั้น เชื่อว่าเมื่อไทยสามารถจัดตั้งเอนเทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้สำเร็จ เชื่อว่าจะทำการพนันนอกระบบลดลง และมีผลต่อระบบเศรษฐกิจอย่างแน่นอน โดย เฉพาะการลงทุนก่อสร้างในระยะแรก 100,000 ล้านบาทต่อราย จะมีผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) 0.2% และหากแล้วเสร็จทั้งโครงการจะมีผลต่อจีดีพี 0.7%

สำหรับรูปแบบการลงทุนจะเป็นลักษณะของการร่วมลงทุน ซึ่งในส่วนของคนไทยเชื่อว่า จะมีหลายรายสนใจลงทุน โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นลักษณะของการเปิดประมูล รายใดยื่นข้อเสนอผลตอบแทนให้รัฐสูงสุดรายนั้นจะได้รับการคัดเลือก และเชื่อว่าเมื่อเป็นการลงทุนของเอกชน 100% จะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องการผลตอบแทนกลับคืนเร็วเช่นกัน

โดยสถานบันเทิงครบวงจรจะประกอบด้วยบริการหลากหลายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและกิจกรรมสำหรับครอบครัว อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม 6 ดาว สวนสนุก สนามกีฬา ร้านอาหาร ไนต์คลับ ผับหรือบาร์ สถานที่จัดการประชุม พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และสินค้าโอทอป สวนน้ำขนาดใหญ่ เรือยอชต์ ครูซซิ่งคลับ และกาสิโน เป็นต้น

วันเดียวกัน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงการโอนเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุว่า เบื้องต้นในวันที่ 27 ม.ค.นี้ จะดำเนินการแจกเงิน 10,000 บาท ในกลุ่มผู้สูงอายุ เฟส 2 ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชี ได้ก่อนวันที่ 29 ม.ค.นี้.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม