สนค.แจงสี่เบี้ยเงินเฟ้อปี 68 เติบโต 0.8% ขึ้นค่าแรงไม่มีผลกระทบ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สนค.แจงสี่เบี้ยเงินเฟ้อปี 68 เติบโต 0.8% ขึ้นค่าแรงไม่มีผลกระทบ

Date Time: 7 ม.ค. 2568 09:35 น.

Summary

  • เงินเฟ้อไทยปี 2567 โตได้แค่ 0.40% ต่ำสุดรอบ 4 ปี จากมาตรการตรึงค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล ขณะที่ราคาอาหารและเครื่องดื่มปรับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ปี 2568 คาดโต 0.8% ย้ำขึ้นค่าแรง ไม่กระทบเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ

Latest

ครม.ออกสลากการกุศลหาเงินให้ 1 อำเภอ 1 ทุน รอลุ้นหวยรัฐ 3 ตัว“ไปต่อ-พอแค่นี้”

เงินเฟ้อไทยปี 2567 โตได้แค่ 0.40% ต่ำสุดรอบ 4 ปี จากมาตรการตรึงค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล ขณะที่ราคาอาหารและเครื่องดื่มปรับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ปี 2568 คาดโต 0.8% ย้ำขึ้นค่าแรง ไม่กระทบเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยเฉลี่ยทั้งปีที่ผ่านมา เทียบกับปี 2566 สูงขึ้น 0.40% ต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2563 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.85% มีสาเหตุหลักจากการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ผลไม้สด เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ แต่มีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ได้แก่ ค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เท่ากับ 108.28 เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.2566 ซึ่งค่าดัชนีเท่ากับ 106.96 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 1.23% จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเป็นสำคัญ เพราะราคาในปี 2566 ต่ำกว่า รวมถึงราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น ฯลฯ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

“เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.2567 ลดลง 0.18% ตามการลดลงของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 0.51% และหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.07% ตามการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเบนซิน ค่าเช่าบ้าน ของใช้ส่วนบุคคล ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกจากการคำนวณ) เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.79% เทียบเดือน ธ.ค.2566 ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือน พ.ย.2567 ที่สูงขึ้น 0.80% และเฉลี่ยทั้งปีที่ผ่านมาสูงขึ้น 0.56%”

ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปของปีนี้ ยังคาดการณ์ขยายตัว 0.3-1.3% มีค่ากลาง 0.8% โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ เศรษฐกิจไทยปีนี้ มีแนวโน้มดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ทั้งการขยายตัวของการลงทุน และการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวทำให้ความต้องการสินค้าและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นต้น

“ปัจจัยกดดัน คือ มาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ โดยเฉพาะลดค่าไฟฟ้าและการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม, ฐานราคาผักและผลไม้สดปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์เอลนีโญและลานีญา และการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และการขายรถยนต์ในประเทศ ส่งผลให้ค่าเช่าบ้านและราคารถยนต์เพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ คาดว่าเงินเฟ้อไตรมาสแรกปีนี้ จะสูงเกิน 1% โดยเดือน ม.ค.น่าจะมีค่ากลาง 1.25% เพราะฐานราคาดีเซลเดือน ม.ค.2567 อยู่ที่ 29.92 บาท/ลิตร ส่วนไตรมาส 2 และ 3 อาจลดลง และกลับมาสูงขึ้นที่ระดับ 1% ในไตรมาสสุดท้าย ขณะที่การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่เฉลี่ย 2.90% ไม่กระทบต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ คาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้โต 0.8% และจากข้อมูลพบว่า ปี 2566 ค่าแรงปรับขึ้น 3.72% เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.23% ส่วนปีที่ผ่านมา ค่าแรงปรับขึ้น 2.42% เงินเฟ้อเพิ่ม 0.4%.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ