ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ตลาดหุ้นไทย เมื่อวันที่ 6 ม.ค. พบว่า ปรับตัวลงแรงต่อเนื่องจาก2 วันแรกที่ตลาดหุ้นเปิดทำการ โดยลดลง 12.11 จุด มาปิดตลาดที่ 1,372.65จุด มีมูลค่าการซื้อขาย37,212.25ล้านบาทจุด ต่างชาติซื้อ 650.03 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขาย862 ล้านบาท โดยหุ้นใหญ่ปรับตัวลงแรง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้า ผู้บริหารในวงการหลักทรัพย์ระบุว่า หุ้นไทยถูกกดดัน จากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ปรับตัวลงแรงทั้งหมด จากความกังวล การปรับลดค่าไฟฟ้าของภาครัฐ หลังการปราศรัยของนาย ทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทยที่เชียงราย ที่มีแนวคิดปรับลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ในปีนี้ จาก4.15 บาทต่อหน่วย
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ว่า ราคาหุ้นโรงไฟฟ้า ตอบรับข่าวเชิงลบไปแล้วราว 8% หากคำนวณ ราคาค่าไฟฟ้าปัจจุบันจาก 4.15 เหลือ 3.70 บาท ลดลงคิดเป็น 11% การปรับลดค่าไฟฟ้าอาจทยอยลดลง หรือเหลือระดับดังกล่าว ในช่วงปลายปี โดยต้นทุนผลิตไฟฟ้า ปัจจุบันซึ่งเป็นฤดูหนาว จะสูงกว่า หน้าร้อน ที่ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลงแล้ว หากลดค่าไฟฟ้าลงระดับนี้จริง ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ไม่น่าปรับลงแรงมากแล้ว แต่ต้องติดตามต่อว่าจะปรับลดค่าไฟฟ้าเหลือ3.70 บาทในช่วงใด
ขณะที่ บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ระดับดัชนีราคาตลาดหุ้นไทยหรือ SET INDEXในระดับเริ่มต้นในเดือน ม.ค.ของทุกปี พบว่า ที่ระดับ SET INDEX ปีนี้ ปัจจุบันที่เริ่มต้นปีที่ระดับ 1,380 จุด นับเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 9 ปี และหากประเมินขนาดของมูลค่าตลาดหุ้นไทย จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม( MARKET CAP )ซึ่งอยู่ที่ 17.43 ล้านล้านบาท และหากไม่รวมมูลค่าหุ้นของ บมจ.เดลต้า อิเลคทรอนิกส์ (DELTA)จะเหลือมูลค่าตลาดอยู่ที่ 15.53 ล้านล้านบาท