นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าเพื่อแก้ปัญหาราคามันสำปะหลัง ตนจึงได้สั่งการไปยังกรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่มันหลายมาตรการ ทั้งยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน พร้อมขอให้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเพิ่มจำนวนรับซื้อมันเส้น และสั่งการทูตพาณิชย์ให้หาตลาดล่วงหน้า เน้นเปิดตลาดใหม่ให้แก่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่าขณะเดียวกันสัปดาห์หน้า ช่วงก่อนปีใหม่ กรมการค้าภายในเตรียมของบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สำหรับโครงการชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ปี 2567/68 เพื่อให้เกษตรกรชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังไปก่อน ในช่วงที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาดมาก สนับสนุนให้ใช้สินเชื่อจาก ธ.ก.ส. และรัฐบาลจะรับภาระดอกเบี้ยให้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งได้เตรียมหารือร่วมกับสมาคมมันสำปะหลังทั้ง 4 สมาคม กลุ่มผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงสุกร เพื่อให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ หรือผู้เลี้ยงปศุสัตว์ช่วยดูดซับปริมาณมันสำปะหลังในประเทศ ผลักดันการใช้มันเส้นในประเทศในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ปริมาณไม่น้อยกว่า 500,000 ตัน ซึ่งมากกว่าปริมาณการใช้ในอดีตที่ผ่านมา
ในส่วนของกรมการค้าต่างประเทศ ได้เร่งเดินหน้าขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังไปต่างประเทศ โดยมีการหารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 4 และ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้หาแนวทางการจัดกิจกรรมขยายตลาดร่วมกัน พร้อมกำหนดตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพในการนำเข้ามันสำปะหลังเพิ่มเติม อาทิ เม็กซิโก ชิลี ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รวมทั้งให้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มการส่งออกสินค้า
ทั้งยังมีแผนงานจัดกิจกรรมขยายตลาดมันสำปะหลังร่วมกับภาคเอกชน เช่นที่ จีน ระหว่างวันที่ 5 – 9 ม.ค. 68 จะนำคณะเดินทางทั้งภาครัฐและภาคเอกชนไปจัดกิจกรรมขยายตลาดผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยในอุตสาหกรรมขั้นปลายที่มีศักยภาพต่างๆ ที่หลากหลาย ณ นครเซี่ยงไฮ้ และนครเฉิงตู คาดว่าจะสามารถสร้างความต้องการล่วงหน้าในตลาดก่อนเทศกาลตรุษจีนให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยได้กว่า 1 ล้านตัน และเร่งผลักดันผลผลิตมันสำปะหลังสู่ตลาดจีน
“ช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้หารือกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ขอให้ผู้นำเข้าจีนช่วยรับซื้อมันสำปะหลังของไทยที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดมากในช่วงนี้ และได้ประสานไปยังนายอู๋ จื้ออู่ อัครราชทูตจีนให้เร่งช่วยดำเนินการในขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อดูแลเกษตรกรชาวไร่มันให้ทันต่อสถานการณ์”