นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 9 ธ.ค.นี้ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตามคำสั่งแต่งตั้งของนายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมคณะกรรมการเป็นครั้งที่ 2 เพื่อกำหนดมาตรการและแผนการดำเนินงานที่จำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่จะส่งผลให้การแก้ปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ทำให้การนำเข้าสินค้าไร้มาตรฐานลดลง ผู้บริโภคเกิดความปลอดภัยในการบริโภคสินค้านำเข้า และทำให้ธุรกิจนอมินีที่ถือเป็นการครอบงำธุรกิจไทยและเศรษฐกิจไทยหมดไปจากประเทศโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ หลังจากที่นายกฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว นายพิชัย ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 2 ชุด โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน ได้แก่ คณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (NOMINEE) และคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ซึ่งคณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุดได้ประชุมร่วมกันมาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อกำหนดแผนงานในการดำเนินการแก้ปัญหา แบ่งเป็น ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเตรียมจะนำแผนงานดังกล่าวเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ วันที่ 9 ธ.ค.นี้ พิจารณาเห็นชอบ รวมทั้งเห็นชอบการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทั้ง 2 กรณี
สำหรับมาตรการในการแก้ปัญหานอมินี ระยะสั้นนั้น จะใช้อำนาจของทุกหน่วยงานตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนบุคคลหรือธุรกิจที่เสี่ยงเป็นนอมินี รวมถึงใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่ในการดำเนินคดี ส่วนระยะกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างจัดทำระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคลที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย (IBAS) เพื่อจับผิดความผิดปกติของนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินี คาดจะแล้วเสร็จภายในไม่เกิน 6 เดือน
ขณะที่ระยะยาว คือ จะแก้ไขกฎหมายของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้กรมไม่รับจดทะเบียน กรณีที่บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงตามกฎหมายของปปง. เช่น เป็นอาชญากรข้ามชาติ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทที่จะขอจดทะเบียนจัดตั้งกับกรม รวมทั้งเพิ่มฐานความผิดนอมินี เพื่อให้ปปง.สามารถยึดอายัดทรัพย์ผู้กระทำผิดได้