นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง เปิดเผยถึงการใช้งบประมาณ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจว่า รัฐบาลมีข้อจำกัดในการจัดทำงบประมาณ โดยต้องอยู่เพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน 70%ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ปีนี้ ถ้าจีดีพีขยายตัว 2.7% ต่อปี จะมีมูลค่า 19-20 ล้านล้านบาท และหนี้สาธารณะในสิ้นปีนี้ อยู่ที่ 65-66% รัฐบาลจะมีพื้นที่ทางการคลังเหลือใช้เพียง 3 ล้านล้านบาท ทำให้ 4 ปีต่อจากนี้ รัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณได้ปีละ 750,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ งบประมาณของรัฐบาล จะใส่ไปในนโยบายดูแลเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนให้เพิ่มขึ้น โดย 5 เรื่องใหญ่ในการลงทุน อาทิ 1.ปัญหาเรื่องพลังงานราคาสูงของไทย คือ การเป็นเจ้าของพลังงาน เพื่อลดการนำเข้า ก๊าซธรรมชาติ ที่สูงถึง 90% ของที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศ ด้วยการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลให้สำเร็จ ซึ่งจะทำให้ไทยมีพลังงานเป็นของตนเองใช้ได้ยาว 20 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสีเขียว 2.การเดินหน้าเเลนด์บริดจ์ ซึ่งไม่ใช่แค่เชื่อมทะเลอ่าวไทย ไปทะเลอันดามัน แต่ต้องดูภาพใหญ่กว่านั้น เช่น จีน ไป เอเชียกลาง-แอฟริกา เป็นต้น
“เศรษฐกิจไทยกินบุญเก่าไปเรื่อยๆ แม้เป็นสิ่งที่นักลงทุนชอบ เพราะอ่านเกมง่าย แต่ลงทุนที่เกิดขึ้นเป็นแบบระยะสั้นๆ จึงจะเห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยหรือ หุ้นไทยอยู่แค่ 1,600-1,700 จุดเท่านั้น ใครมาบอกว่าจะไปถึง 2,000 จุด ส่วนตัวว่าไม่มีทาง เพราะไม่มีการลงทุนใหม่ๆ หรือการลงทุนระยะยาวเกิดขึ้นเลย”