วิกฤติ-โอกาสไทยจาก "ทรัมป์"

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

วิกฤติ-โอกาสไทยจาก "ทรัมป์"

Date Time: 14 พ.ย. 2567 05:01 น.

Summary

  • การเก็บภาษีจีนถึง 60% จะกระทบห่วงโซ่การผลิตของไทย ที่พึ่งพาวัตถุดิบและชิ้นส่วนจากจีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตของไทยสูงขึ้น กระทบขีดความสามารถด้านการแข่งขันของไทย และอาจเกิดการขาดแคลนวัตถุดิบบางประเภท

Latest

HSBC ชี้เศรษฐกิจไทยโตกว่าที่คิด หลังรัฐเร่งลงทุน กระตุ้นบริโภค ต่างชาติเชื่อมั่น จ่อลงทุนไทยเพิ่ม

หลังจาก “นายโดนัลด์ ทรัมป์” ชนะศึกเลือกตั้ง และกำลังจะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการภายหลังพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.68

ทั่วโลกต่างอกสั่นขวัญแขวนกับนโยบายต่างๆที่นายทรัมป์ใช้หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งผลดีต่อคนอเมริกัน และธุรกิจอเมริกัน แต่จะส่งผลเสียกับประเทศคู่ค้าได้เปรียบการค้าสหรัฐฯ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “จีน” ที่นายทรัมป์ประกาศ “สงครามการค้า” ตั้งแต่เป็นผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรก ที่ไม่ใช่แค่ส่งผลกระทบกับจีน แต่ยังส่งแรงกระเพื่อมถึงประเทศอื่น รวมถึงไทยด้วย

การผงาดเป็นผู้นำสหรัฐฯอีกครั้งนั้น “สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า” หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ได้วิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับไทยไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

นโยบายนายทรัมป์ที่เน้นปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าสหรัฐฯ, การกลับมาอย่างเข้มข้นของนโยบาย America First หรืออเมริกามาก่อน, การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 60% และประเทศอื่นอีก 10-20%, การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอัตราเดียวกับที่ประเทศนั้นๆ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯนั้น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่า อาจทำให้การค้าโลกลดลง 0.8% ในปี 68 และจะลดลงมากถึง 1.3% ในปี 69 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอลงได้มากถึง 7%

นอกจากนี้ การเก็บภาษีจีนถึง 60% จะกระทบห่วงโซ่การผลิตของไทย ที่พึ่งพาวัตถุดิบและชิ้นส่วนจากจีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตของไทยสูงขึ้น กระทบขีดความสามารถด้านการแข่งขันของไทย และอาจเกิดการขาดแคลนวัตถุดิบบางประเภท

ขณะเดียวกันสินค้าไทยอาจถูกตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าเข้มงวดขึ้น ป้องกันจีนเลี่ยงเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯอัตราสูง จึงส่งออกไปสหรัฐฯโดยผ่านไทย ที่ถูกเก็บภาษีต่ำกว่าแทน

ในทางกลับกันสงครามการค้ากับจีนทำให้สหรัฐฯนำเข้าสินค้าจีนลดลงมาก และเป็นโอกาสให้ไทยส่งออกไปทดแทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ แต่ก็มีโอกาสที่จีนจะทุ่มส่งออกไปทั่วโลกและไทย จากการที่ส่งออกไปสหรัฐฯได้น้อยลง ซึ่งไทยเตรียมรับมือกับสินค้าจีนราคาถูกไร้มาตรฐานแล้ว

อีกทั้งจะเห็นการย้ายฐานลงทุนของสหรัฐฯ และประเทศต่างๆออกจากจีน เพื่อลดความเสี่ยงจากมาตรการทางการค้า ซึ่งการวางตัว “เป็นกลาง” เป็นมิตรกับทุกประเทศของไทยจะดึงดูดการลงทุนได้มากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ อาหารแปรรูป เพราะผลิตที่ไทย ส่งออกได้ทั่วโลก

กล่าวโดยสรุป สนค.มองว่า “เศรษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมจะได้รับประโยชน์และเติบโตในทิศทางที่ดี”

ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส อยู่ที่ไทยจะฉวยโอกาสจากวิกฤตินั้นได้หรือไม่ แต่เชื่อว่า ไทยพร้อมรับมือแล้ว เพราะเป็นการ Come Back ของ “นายทรัมป์” ที่ทั่วโลกเคยเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากมาแล้ว!!

ฟันนี่เอส

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ