เลือกประธานบอร์ด ธปท.จบ “กิตติรัตน์” จ่อได้เก้าอี้สมใจฝ่ายการเมือง

เลือกแล้วประธานบอร์ด ธปท. “สถิตย์” ส่งจดหมายน้อยถึงสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวจำนวนมาก ระบุ “จบแล้ว” ก่อนเสนอชื่อตามขั้นตอน ลือหึ่ง! “กิตติรัตน์” ผงาด ท่ามกลางม็อบที่มีทั้งคัดค้าน และสนับสนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย.67 คณะกรรมการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธาน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 7 คน ซึ่งมีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ประชุมเพื่อคัดเลือกประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ธปท. และกรรมการ ธปท.อีก 2 คนที่ครบวาระ คาดว่า ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่ คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลัง ซึ่งจะทำให้ นายกิตติรัตน์ กลายเป็นประธานบอร์ด ธปท.คนที่ 5 ต่อจาก ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นายวีรพงษ์ รามางกูร นายอำพน กิตติอำพน และนายปรเมธี วิมลศิริ

สำหรับการประชุมคัดเลือกครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางการจับตาของทุกภาคส่วน ซึ่งมีทั้งฝั่งคัดค้าน โดยมองว่านายกิตติรัตน์มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล และอาจมีการเมืองแทรกแซงการทำงานของ ธปท. ขณะที่ฝั่งสนับสนุนนายกิตติรัตน์ เพราะเป็นบุคคลที่มีความสามารถ ซึ่งที่ประชุมใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง โดยไม่มีการแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์หลังการประชุมเสร็จสิ้น โดยนายสถิตย์ขอให้ ธปท.ส่งจดหมายน้อยถึงสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวจำนวนมากว่า ประธานกรรมการคัดเลือกฯ แจ้งว่า วันที่ 11 พ.ย.67 กระบวนการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท. ได้เสร็จสิ้นแล้ว และเลขานุการฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป กล่าวคือ กรณีประธานกรรมการฯ จะนำเสนอชื่อต่อ รมว.คลัง เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อ ครม.เห็นชอบแล้ว ให้ทูลเกล้าฯเพื่อทรงแต่งตั้ง ส่วนกรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จะนำเสนอต่อ รมว.คลังพิจารณาแต่งตั้งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ก่อนการประชุม ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ยื่นหนังสือถึงนายสถิตย์ คัดค้านการคัดเลือกนายกิตติรัตน์ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า...ธปท.ต้องไม่ถูกการเมืองเข้ามาแทรกแซง มิฉะนั้น จักบังเกิดมหันตภัยร้ายแรงต่อระบบการเงินมั่นคงของชาติให้วินาศไปได้อย่างง่ายดายเฉกเช่นหลายประเทศที่เคยมั่งคั่งมาก่อน และไม่ยอมรับนายกิตติรัตน์เข้ามาดำรงตำแหน่งใดๆ ไม่ว่าประธานหรือแม้แต่กรรมการ เพราะมีความสัมพันธ์และแสดงตนชัดเจนถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางการเมือง

ต่อมาตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และตัวแทนศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้เดินทางมาที่ ธปท.เพื่อยื่นเรื่อง พร้อมส่งรายชื่อประชาชนที่ร่วมคัดค้านการเมืองแทรกแซงธปท. 51,980 คน โดยระบุว่า ถ้ายอมให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซง ธปท.จะเป็นอันตรายยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย ทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง และทำลายหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศให้อ่อนแอ จนไม่เหลือหน่วยงานที่จะทัดทานนโยบายเศรษฐกิจของฝ่ายการเมืองที่ไม่ถูกต้องได้

ขณะที่กลุ่มสนับสนุนนายกิตติรัตน์มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยนายวิฑูร ลี้ธีระนานนท์ เครือข่ายภาคประชา สังคมเพื่อการกู้ยืมที่เป็นธรรม เข้ายื่นรายชื่อประชาชน 15,000 รายชื่อ ต่อคณะกรรมการคัดเลือกฯ เพื่อสนับสนุนนายกิตติรัตน์ เพราะมองว่า นายกิตติรัตน์มีความรู้ความสามารถมากพอที่จะพาเราผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ และไม่ได้เป็นคนการเมือง ไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ มา 1 ปีแล้ว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่