ความหวาดหวั่นของผู้ส่งออกข้าวไทย เกิดขึ้นแล้ว!!
เมื่อปลายเดือน ก.ย.67 “อินเดีย” ผู้ส่งออกข้าวเบอร์ 1 โลก กลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง และกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำตันละ 490 เหรียญสหรัฐฯ อีกทั้งยังเก็บภาษีส่งออกข้าวนึ่ง ข้าวกล้อง และข้าวเปลือก 10%
หลังจากห้ามส่งออกมาตั้งแต่กลางปี 66 เพราะต้องการเก็บไว้บริโภคในประเทศ เนื่องจากภัยแล้งช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผลผลิตลดลงมาก (แต่ไม่ถึงกับห้ามส่งออกโดยสิ้นเชิง เพราะยังเปิดให้ผู้ซื้อเจรจาขอซื้อได้)
ทำให้ผู้ส่งออกข้าวไทย คาดว่า ตลาดข้าวไทย และข้าวโลกได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะอินเดีย มีข้าวขาวในประเทศหลายสิบล้านตัน อีกทั้งผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่กำลังจะออก และน่าจะมีเพิ่มขึ้น
ดังนั้น อินเดียจะทุ่มสต๊อกข้าวเก่าในราคาถูกเข้ามาถล่มตลาด ซึ่งจะฉุดให้ราคาข้าวไทย และข้าวโลกลดลง รวมถึงปริมาณส่งออกข้าวไทย และผู้ผลิตข้าวอื่นๆในโลกลดลงด้วย
“สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย” คาดเดือน ต.ค.67 การส่งออกข้าวไทย ที่กว่าจะรวบรวมตัวเลขส่งออกได้จริงก็ราวกลางเดือน พ.ย.67 นั้น น่าจะได้ราว 700,000 ตัน จากเดือน ก.ย.67 ที่ได้ 878,711 ตัน มูลค่า 19,463 ล้านบาท
ขณะที่ราคาข้าวไทยลดลงรวดเร็ว โดยข้าวขาว 5% ณ สิ้นเดือน ต.ค.67 ตันละ 507 ลดจาก 570 เหรียญ เดือน ก.ย.67 แต่เวียดนาม 524-528 เหรียญ, อินเดีย 444-448 เหรียญ และปากีสถาน 461-465 เหรียญ ส่วนข้าวนึ่งไทยตันละ 522 เหรียญ จาก 579 เหรียญ แต่อินเดีย 439-443 เหรียญ ปากีสถาน 493-497 เหรียญ
ทำให้คาดว่า ไทยจะสูญเสียตลาดข้าวขาว และข้าวนึ่งบางส่วนให้กับอินเดียแน่นอน!!
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด!! ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.67 ทางการอินเดียประกาศยกเลิกราคาส่งออกขั้นต่ำ พร้อมยกเลิกภาษีส่งออกข้าวนึ่ง ข้าวกล้อง และข้าวเปลือก ตามที่เกษตรกรและผู้ส่งออกเรียกร้อง เพื่อให้ส่งออกข้าวขาวได้โดยเสรี เพราะคาดว่าผลผลิตปีนี้จะมากกว่าปีก่อน
กรณีนี้จะยิ่งทำให้การส่งออก และราคาส่งออกข้าวไทย รวมถึงข้าวโลกกระทบหนักขึ้นไปอีก แม้ปีนี้กระทวงพาณิชย์และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดว่า ไทยจะส่งออกข้าวได้มากกว่า 8.5 ล้านตัน
โดย “กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ” คาดปี 68 ไทยจะส่งออกได้ 7.5 ล้านตัน ลดลงจากปี 67 ที่คาด 8.5 ล้านตัน หรือเป็นเบอร์ 2 ของโลก รองจากอินเดีย ที่คาดส่งออกได้ 18 ล้านตัน จากปี 67 ที่คาด 17 ล้านตัน และเวียดนาม เบอร์ 3 ที่ 7.5 ล้านตัน จากปี 67 ที่คาด 8.3 ล้านตัน
เนื่องจากอินเดียจะถล่มส่งออก, ผู้ซื้อหลายประเทศชะลอนำเข้า เช่น อินโดนีเซีย อิรัก จีน ฯลฯ เพราะคาดผลผลิตจะเพิ่มขึ้นหลังภัยแล้งผ่านพ้นไปแล้ว และราคาข้าวไทยยังคงสูงกว่าคู่แข่ง ทำให้ไทยเสียตลาดข้าวหลายแห่งให้อินเดีย และเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม หากไทยยังปล่อยให้ชาวนาปลูกข้าวตามยถากรรม ไร้ทิศทางพัฒนาข้าวทั้งระบบ ตั้งแต่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน พัฒนาพันธุ์ข้าวให้หลากหลายตรงความต้องการของตลาด แปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแล้ว ไม่ว่าคู่แข่งสำคัญอย่างอินเดีย เวียดนาม หรือจีน ทำอะไร ก็กระทบตลาดข้าว และราคาข้าวไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้!!
ฟันนี่เอส
คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม