เทรนด์ธุรกิจ 2025  สิ่งที่ “ธุรกิจ SME” ไทยต้องรู้ เมื่อการค้าโลก มุ่งหน้าสู่เอเชีย อะไร? คือโอกาส

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เทรนด์ธุรกิจ 2025  สิ่งที่ “ธุรกิจ SME” ไทยต้องรู้ เมื่อการค้าโลก มุ่งหน้าสู่เอเชีย อะไร? คือโอกาส

Date Time: 28 ต.ค. 2567 20:29 น.

Video

บุกโรงงาน PANDORA ช่างไทยผลิตจิวเวลรี่ แบรนด์โลกแสนล้าน | On The Rise

Summary

  • เทรนด์ธุรกิจ 2025 สิ่งที่ “ธุรกิจ SME” ไทยต้องรู้ ! เมื่อ การค้าโลก กำลังมุ่งหน้าสู่เอเชีย ภายใต้ 3 ภาพใหญ่เศรษฐกิจโลก อะไรคือความท้าทายและโอกาส สำหรับผู้ประกอบการ finbiz by ttb ชวนเจาะกลยุทธ์ธุรกิจ ที่สำคัญ

หลายสำนักเศรษฐกิจ คาดการณ์ว่า ปี 2025 จะเป็นอีก 1 ปี ที่เต็มไปด้วยความท้าทายของภาคธุรกิจไทย เพราะทิศทางภาพใหญ่ของโลก ที่จะกระแทกมายัง “เศรษฐกิจไทย”นั้น มีแต่ความผันผวน และ ความไม่แน่นอน รออยู่

นี่เอง อาจทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ในภาคนำเข้า-ส่งออก รวมไปถึง ธุรกิจ SME ขนาดเล็ก ต้องจับตามองและเตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิด ซึ่งหาก ไม่อยากตกขบวน ก็ต้องปรับกลยุทธ์ เสียตั้งแต่ตอนนี้ 

ปี 2025 จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ? 

เจาะข้อมูลจากงาน ttb Global Trade & FX Forum : The Future of Asia Economic Trends and Trade Challenges for Thailand 2025 ได้ฉายภาพเศรษฐกิจโลกปีหน้า ว่าจะอยู่ภายใต้ 3 สถานการณ์สำคัญ ได้แก่ 

  • Steady but Slow เศรษฐกิจในประเทศพัฒนาที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ เช่น สหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่น มีแนวโน้มเติบโตช้าลง ในขณะที่กลุ่มตลาดเกิดใหม่ เช่น ประเทศในกลุ่มอาเซียนยังเห็นศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่
  • New Easing Cycle เงินเฟ้อทั่วโลกทยอยปรับตัวลง กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลก เริ่มเข้าสู่วัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไปเมื่อเดือนกันยายน ส่งสัญญาณการปรับลดต้นทุนทางการเงิน และคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะยังมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2025
  • Geopolitical Risks นโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศที่ต่างกันระหว่างผู้สมัครเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกที่ต่างกันไป รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางยังจะยืดเยื้อต่อไป

การค้าโลก แบ่ง 2 ขั้ว เชื่อ"เศรษฐกิจไทย" พ้นจุดต่ำสุด

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2025 คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวหลังจากได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของวิกฤตต่าง ๆ ไปแล้ว แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง อาจลดทอนการบริโภคภายในประเทศของคนไทย

แง่การท่องเที่ยว ยังมีประเด็นน่าห่วง จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาเที่ยวไทยมีเพียง 60% เมื่อเทียบกับก่อนช่วงโควิด ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่นับชาวจีนมีจำนวนใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดเท่านั้น 

ส่วนการส่งออก ภาคการผลิต แนวโน้มฟื้นตัวดี ยกเว้น ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เริ่มเห็นสัญญาณการหดตัว ขณะที่ภาคการลงทุน แม้ทุกวันนี้ต่างชาติจะหันไปลงทุนที่เวียดนามกันค่อนข้างมาก แต่การลงทุนในประเทศไทยก็ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี

ในรายงานฉบับเดียวกัน ยังระบุว่า สิ่งที่ประเทศไทย ต้องจับตามองมากที่สุด คือ สภาพแวดล้อมทางการค้าระหว่างประเทศในปี 2025 อาจถูกแบ่งเป็นสองขั้วชัดเจนมากขึ้น จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เหมือนจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้สมัครจากรีพับลิกันเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง กําแพงภาษีสินค้าจากจีนอาจถูกขยับเป็น 60% หรือ 4 เท่าจากของเดิม 

Dual Globalization หรือโลกที่แบ่งเป็นสองขั้วจากภูมิศาสตร์เศรษฐกิจใหม่ การขยายตลาดและการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในตลาดใหม่ ๆ โดยฝั่งยุทธศาสตร์สหรัฐฯ อาจมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับ อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เข้ามาในห่วงโซ่สหรัฐฯ ส่วนยุทธศาสตร์จีน มุ่งเน้นขยับขยายพื้นที่ไปยังประเทศกําลังพัฒนาอย่างแอฟริกา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ซึ่งปัจจุบันได้ขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของจีนแทนสหรัฐอเมริกาแล้ว ส่งผลให้บทบาทของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีความสำคัญและน่าสนใจมากขึ้น จากการเป็นพื้นที่ในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกในยุคถัดไป

เจาะ 5 เทรนด์ธุรกิจ 2025 สิ่งต้องรู้สำหรับธุรกิจ SME

ทั้งนี้ จากสภาพแวดล้อมการค้าโลกที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แนวโน้มที่จะเกิดชึ้น และ อาจกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ มี ดังนี้ 

  1. การค้าโลกมุ่งหน้าสู่เอเชีย การค้าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงจากประเทศที่พัฒนาแล้วไปยังตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งมีโอกาสในการเติบโตมากขึ้น SME ควรหันมามองหาการค้ากับประเทศในเอเชียเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสใหม่ ๆ
  2. ปรับตัวให้ทันต่อการแยกตัวของห่วงโซ่อุปทาน การเกิดสงครามการค้าและมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ผู้ประกอบการ SME จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูงขึ้นและมีมาตรฐานที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เช่น การใช้แนวคิด Go Green & ESG ในการผลิตและการตลาด
  3. มาตรฐาน ESG ที่เพิ่มขึ้น การใช้มาตรฐาน ESG จะกลายเป็นเรื่องสำคัญในธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้มาตรการทางการค้าจากประเทศตะวันตก SME ต้องเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการเข้าถึงตลาดโลก
  4. กลยุทธ์การบุกตลาด เช่น ตลาดสหรัฐฯ และยุโรป หาช่องทางใหม่ในการส่งออก โดยเฉพาะจากสินค้าที่มีคุณภาพและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาด , ตลาดจีน ใช้โอกาสจากช่องทางแพลตฟอร์มจีนที่ธุรกิจไทยเข้าถึงได้ในการรุกตลาดจีนที่มีประชากรจำนวนมาก พัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน ,ตลาดอาเซียน ใช้ยุทธศาสตร์ที่ตั้งของไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วน ตลาดใหม่ในเอเชียและอื่น ๆ ค้นหาโอกาสในตลาดที่กำลังเติบโต เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
  5. การสร้างความยืดหยุ่น เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้า

ที่มา : finbiz by ttb 

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ