นายกฯ สั่งตั้งบอร์ดแก้ปัญหา ธุรกิจผิดกฎหมาย สินค้านำเข้าต่ำมาตรฐาน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.67 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาการเข้ามาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศ และเกรงว่าผู้บริโภคและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอาจได้รับผลกระทบจากการซื้อสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูก ที่ทะลักเข้ามา

โดยมีตนเป็นประธานกรรมการ และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักนายก รัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วนเพื่อบูรณาการหน่วยงานต่างๆ หาแนวทางแก้ไขปัญหาการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไม่มีคุณภาพมาตรฐานจากต่างประเทศ เบื้องต้นได้กำหนด 5 มาตรการหลัก 63 แผนปฏิบัติการ ได้แก่ 1.ให้หน่วยงานรัฐบังคับใช้ระเบียบ/กฎหมายอย่างเข้มข้น 2.ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าอนาคต 3.กำหนดมาตรการด้านภาษี 4.มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทย 5.สร้าง/ต่อยอดความร่วมมือกับประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้น เพื่อขยายตลาดให้สินค้าไทย

“นายกรัฐมนตรีห่วงปัญหาสินค้านำเข้าไม่มีคุณภาพมาตรฐานและธุรกิจต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปช่วยแก้ปัญหา โดยขับเคลื่อนผ่านกลไกภายใต้คณะกรรมการฯ เพื่อดำเนินการเชิงรุกในการติดตามและเร่งรัดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และตั้งเป้าให้ชัดเจนภายใน 3 เดือน โดยจะประชุมนัดแรกวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานและรับฟังปัญหา อุปสรรคการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงาน พร้อมพิจารณามาตรการป้องกันและส่งเสริมเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว”

สำหรับกรณีของแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ TEMU นั้น ขณะนี้ภาครัฐได้เร่งให้ผู้ประกอบการเข้ามาตั้งสำนักงานในไทยโดยเร็ว เพื่อให้ภาครัฐกำกับดูแลประโยชน์ผู้บริโภค และความเป็นธรรมในการทำธุรกิจ และจากการหารือกับทูตจีนประจำประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ ทราบว่า ทางการจีนไม่ต้องการให้ผู้บริโภคชาวไทยมีทัศนคติที่ไม่ดีกับจีนและไม่ต้องการให้เรื่องไม่ดี มากระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ยินดีให้ความร่วมมือกับไทยเต็มที่.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่