ช่วยลดภาระหนี้ให้คนไทย กนง. ยอมรัฐมีมติหั่นดอกเบี้ยลง 0.25 %

รัฐบาลเฮลั่น! กนง.แจ้งข่าวดีลูกหนี้ไทย มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มองเศรษฐกิจฟื้น เงินเฟ้อต่ำ แต่การเงินตึงตัว แบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อ ชี้การลดดอกเบี้ยจะช่วยลดภาระหนี้คนไทยได้บ้าง

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุมวันที่ 16 ต.ค. 67 ว่า มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 2.50% ลงมาเป็น 2.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรก หลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้ในวันที่ 10 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยเหตุผลหลักเนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567

แต่ในส่วนของเสถียรภาพทางการเงิน ตั้งแต่การประชุม กนง.ครั้งที่ผ่านมา และในการประชุมครั้งนี้มีการหารือกันมากถึงภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น จากรายได้ของครัวเรือนที่ยังไม่กลับมา การปล่อยสินเชื่อทำได้ยากขึ้นจากความเสี่ยงที่สูงขึ้น ขณะที่เห็นกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ กนง.มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ จะช่วยบรรเทาภาระหนี้ของประชาชนลงได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้สถานการณ์ที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง

ขณะที่ในภาพรวมเศรษฐกิจ กนง.คาดการณ์ว่าในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัว 2.7% และขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.9% ในปี 2568 ใกล้เคียงกับประมาณการเดิมที่ 2.6% และ 3% ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณการดังกล่าวได้รวมผลจากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทในคนกลุ่มเปราะบาง 14.5ล้านคนแล้ว สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 0.5% และเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% ในปีหน้า

“การปรับลดครั้งนี้เพื่อให้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่เป็นกลาง ไม่ใช่การผ่อนคลายนโยบายการเงิน ดังนั้น เราจะไม่เห็นการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องไปเรื่อยๆ”

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนได้พูดมาตลอดว่าอยากเห็นการลดดอกเบี้ยนโยบายลง โดยอยากให้มีการปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุม กนง.ที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ลง 0.5% โดยอาจเป็นการลดลงในครั้งนี้ 0.25% และอีกครั้งในช่วงปลายปีควรลดอีก 0.25%.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม