น้ำท่วมเชียงรายพ่นพิษ! โรงแรม-คาเฟ่ อ่วม เสียหายกว่าครึ่งล้าน หวังแรงส่ง ภาครัฐ-นักท่องเที่ยว

จากสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในภาคเหนือ ส่งผลให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก

หนึ่งในนั้นคือ Riva Vista Riverfront Resort Chiang Rai ซึ่งทาง Thairath Money ได้มีการสอบถามไปยัง

กวินท์ ศรีรัตนประสิทธิ์ General Manager ผู้จัดการทั่วไป Riva Vista Riverfront Resort Chiang Rai กล่าวกับ Thairath Money ว่า โรงแรม Riva Vista Riverfront Resort Chiang Rai ตั้งอยู่ที่ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำกก ทำให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย เมื่อวันที่ 11-13 กันยายนที่ผ่านมา โดยน้ำทะลักเข้าท่วมทุกพื้นที่ของชั้น 1 ซึ่งหากวัดจากระดับถนนหน้าโครงการจะประมาณเอว หรือ 1.2 เมตร

“เราเตรียมตัวไม่ทัน โดยน้ำเริ่มเข้ามาตั้งแต่ตี 3 ซึ่งเราเองก็ประมาท เนื่องจากเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราจึงคาดคิดว่าจะสูงขนาดนี้ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นพบว่าสถานการณ์น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีน้ำท่วมขังหลายจุด โดยล้วนเป็นดินโคลน และจากการประเมินมูลค่าความเสียหาย คาดว่าอยู่ที่มากกว่า 2 ล้านบาท”

กวินท์ เล่าต่อว่า เหตุการณ์น้ำท่วมระดับน้ำจะเป็นในลักษณะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งบรรดานักท่องเที่ยวต่างทยอย Check Out ตั้งแต่เช้า กระทั่งรถไม่สามารถเข้า-ออกได้ประมาณ 10 โมง เราจึงขนของทันแค่บางสิ่ง ทำให้ต้องปิดทำการชั่วคราว

กระทั่งทางโรงแรมใช้เวลาในการฟื้นฟูจนกลับมาเปิดให้เข้าพักได้ปกติ ประมาณ 20 วัน โดยกลับมาเปิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 67 ซึ่งไม่ได้ครบทุกตึก ซึ่งปัจจุบันปิด 1 อาคาร จาก 61 ห้อง เปิดทำการเพียง 30 ห้องเท่านั้น คาดว่าในวันที่ 1 พฤศจิกายน 67 จะกลับมาเปิดครบทุกห้องอีกครั้ง

ทั้งนี้จากการสำรวจตลาดพบว่าราคาห้องพักในเว็บไซต์ต่างลดลงมาแทบทุกโรงแรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เนื่องจากผู้ประกอบการหลายๆ โรงแรม ล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น รวมทั้งทางนักท่องเที่ยวเองก็ยังคงมีความกังวล และอยากได้ความเชื่อมั่น

เห็นจากการที่ลูกค้าทุกคนโทรเข้ามาสอบถามว่า “น้ำท่วมหรือไม่?” แม้ว่าจะปลอดภัยแทบทุกพื้นที่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ทั้งจากเทศบาลจังหวัดเชียงราย หรือจาก ททท.เชียงราย ว่า “เชียงรายไม่มีน้ำท่วมแล้ว” มีเพียงแค่ทางโรงแรมประกาศลงพื้นที่เพจกันเองเท่านั้นว่า “เชียงรายปลอดภัยแล้วนะ” ทำให้นักท่องเที่ยวยังคงกังวลในการจองห้องพัก

น้ำท่วมเชียงรายพ่นพิษ! โรงแรมอ่วม รายได้วูบ

กวินท์ กล่าวต่อไปว่า ปกติในเดือนตุลาคมส่วนใหญ่จะมีการจองห้องพักสูง เปรียบเสมือนเป็นไฮซีซั่นเลยก็ว่าได้ เพราะมีวันหยุดยาวสองรอบ แต่ปัจจุบันเรียกได้ว่าขาดทุนตั้งแต่เดือนกันยายนถึงตุลาคม เพราะตามจริงยอดจองเดือนตุลาคมถือว่าดีมาก แต่กลับหยุดชะงัก และส่วนใหญ่เกิน 50% จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“ดังนั้นหากมีการสนับสนุนในส่วนของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือค่าชดเชย ก็จะดีอย่างมาก อีกมุมหนึ่งหากเกิดเหตุขึ้นอาจจะเป็นเทคโนโลยีในการป้องกันอุทกภัย เพราะปัจจุบันมีแค่กระสอบทรายเท่านั้น ซึ่งหากมีการวิจัยและพัฒนา หรือเคสที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันน้ำท่วม ให้เราเข้าไปศึกษาได้ หรือ นวัตกรรมที่สามารถป้องกันได้ ที่ได้รับการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพ เช่น กรณีโรงแรมแชงกรีลา ที่อยู่บนถนนช้างคลาน แต่กลับไม่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากใช้ระบบป้องกันน้ำท่วมกำแพงกั้นน้ำ ที่ทำจากแผ่นเหล็ก-พ่นกันสนิม มีเสาอลูมิเนียมค้ำยัน โดยเป็นนวัตกรรมระบบป้องกันน้ำท่วม "Flood Gate" ความสูงประมาณ 1.80 เมตร อีกทั้งระบบระบายน้ำป้องกันน้ำทะลัก”

ดังนั้นหากหน่วยงานภาครัฐมีนวัตกรรม และความรู้ในการป้องกัน จัดอบรมให้ได้ศึกษา และหยิบยืมอุปกรณ์ได้จะเป็นการดีอย่างมาก เพราะการที่โรงแรมต้องทำการรีโนเวท ซ่อมแซมและทำความสะอาด มันประเมินมูลค่าความเสียหายและค่าใช้จ่ายกับสิ่งที่ต้องฟื้นฟูหลังน้ำลดไม่ได้เลย

“เราหนีไม่ได้ เราลงทุนไปแล้ว เราอยู่ตรงนี้ เราก็ต้องป้องกันและอยู่กับมันให้ได้ โดยที่ให้เสียหายน้อยที่สุดหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก ดังนั้นองค์ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีจะเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้ามาช่วยป้องกันในภายภาคหน้าไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือหากเกิดจริงๆ ก็อาจจะน้อยกว่านี้” กวินท์ กล่าวทิ้งท้าย

แอ่วเหนือ! เชียงรายเที่ยวได้แล้วเจ้า

เช่นเดียวกับ Triple C campsite & cafe (ทริปเปิ้ล ซี แคมป์ไซต์ แอนด์ คาเฟ่) คาเฟ่บรรยากาศดี ริมแม่น้ำกกในตัวเมืองเชียงราย สไตล์วินเทจแคมป์ปิ้ง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 เช่นเดียวกัน

จิราภา สมผล เจ้าของร้าน Triple C Campsite & Cafe กล่าวกับ Thairath Money ว่า ร้านอยู่ริมแม่น้ำกก ติดร้านอาหารครัวมหาชัย ข้างสะพานพญามังราย (สะพานใหม่ที่ข้ามมาจากสถานีตำรวจ)

โดยร้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน ช่วงกลางคืน และขึ้นค่อนข้างเร็ว โดยวันนั้นเป็นวันหยุดของร้านพอดี จึงไม่มีพนักงานช่วยขนของ จึงทำได้เพียงช่วยสิ่งมีชีวิตนั่นคือแมว 9 ตัว กับกระต่าย 2 ตัวออกมา

โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากวัดจากปริมาณน้ำบนถนนหน้าร้านท่วมถึงระดับหน้าอก ส่วนในร้านน้ำอยู่ระดับสะโพก แม้ว่าร้านจะยกพื้นสูงกว่าพื้นถนนก็ตาม แต่ก็ยังหลีกหนีความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นไม่พ้น ทำให้ได้รับความเสียหาย ทั้งอุปกรณ์ภายในร้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงรถคลาสสิคที่จอดไว้หน้าร้านจมไปถึงครึ่งคัน ดังนั้นหากประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งหมดอยู่ราวๆ 500,000 บาท

“ต่อมาเมื่อน้ำลดลงเราก็เริ่มทำการฟื้นฟูพื้นที่ทันที โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 20 วันทั้งภายในร้าน และโซนนอกร้าน เนื่องจากโคลนมีจำนวนมาก ต้องใช้รถแบคโฮมาช่วยกวาดออก จากนั้นจึงกลับมาเปิดให้บริการปกติเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 67 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เค้ก และเบเกอรี่”

จิราภา เล่าต่อไปว่า ตอนนี้ร้านจะกลับมาเปิดทำการเป็นปกติ แต่นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเหมือนเดิม โดยมองว่าหายไปเกือบ 50% เพราะก่อนน้ำท่วมเศรษฐกิจชะลอตัวอยู่แล้ว หลายร้านในเชียงรายเงียบ แต่ก็ยังพอมีลูกค้าบ้าง แต่เมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมเชียงราย โดนผลกระทบกว่าครึ่งจังหวัด ยอดขายหลังน้ำท่วมจึงหายไปจำนวนมาก คิดเป็น 50-60% ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟู

โดย จิราภา มองว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะนักท่องเที่ยวยังไม่ทราบว่าตอนนี้เชียงรายกลับมาสู่สภาวะปกติแล้ว เห็นได้จากการที่นักท่องเที่ยวสอบถามเข้ามาว่า “เชียงรายยังเที่ยวได้หรือไม่ น้ำยังท่วมหรือไม่” เนื่องจากภาพข่าวน้ำท่วมที่ออกไปค่อนข้างรุนแรงนักท่องเที่ยวจึงกังวล แต่เมื่อกลับมาเป็นปกติหลายๆ คนอาจจะยังไม่ได้รับข้อมูลตรงส่วนนี้ ว่าตอนนี้เชียงรายไม่มีฝน อากาศเริ่มเย็น บรรยากาศน่าเที่ยวเป็นอย่างมาก

“ในมุมของผู้ประกอบการเราเป็นร้านเล็กๆ ดังนั้นหากทางภาครัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนักท่องเที่ยวรู้ว่ายังมีเราอยู่ตรงนี้ พร้อมกับมีมาตรการสนับสนุน หรือการโปรโมทลงมา เพื่อให้คนรู้ว่ามีร้านไหนบ้างในเชียงรายก็จะดีเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันกลุ่มนักท่องเที่ยวมีไลฟ์สไตล์ต่างกัน ซึ่งคาเฟ่ของเชียงรายมีหลากหลายแนว ฉะนั้นเมื่อมีการแบ่งกลุ่มการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ภายใต้หลายบัจเจท และมีการแนะนำนักท่องเที่ยวก็จะเป็นผลดีทั้งต่อผู้ประกอบการ และตัวนักท่องเที่ยว สุดท้ายนี้จึงหวังว่าช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง สถานการณ์เศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง” จิราภา กล่าวทิ้งท้าย

ชวน Big Cleaning โปรโมทเชียงราย

ขณะเดียวกัน น้ำท่วมครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจร้านอาหารและร้านกาแฟชื่อดังในพื้นที่ด้วยเช่นกัน คือ “Chivit Thamma Da Coffee House, Bistro&Bar” ที่ตั้งอยู่ริมน้ำกก จังหวัดเชียงราย

“เราเหมือนนกที่บ้านโดนพายุพัดกระหน่ำ น้ำท่วมเนื้อตัวเปียกปอนจนยกปีกไม่ขึ้น...แต่เราก็ไม่หนี ฝนหยุดน้ำลด เราก็บินไปเก็บเศษไม้ที่กระจัดกระจายไปคนละทิศทาง เพื่อสร้างรังใหม่ คนละไม้คนละมือ โดยไม่หยุดพัก ถึงแม้ใจเราจะบอบช้ำแต่ก็ยังมีแรง...และความหวัง...ชีวิตธรรมดากำลังเร่งซ่อมแซมบ้านหลังกลืนไปกับแม่น้ำกก ให้กลับมาในเร็ววัน… กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจจากคุณลูกค้าทุกท่านทั้งใกล้และไกล พวกเราได้รับและรู้สึกถึงความรักความเป็นห่วงนั้นอย่างเต็มหัวใจ”

อำนาจ ศรีใส ผู้จัดการร้าน Chivit Thamma Da Coffee House, Bistro & Bar กล่าวว่า ชีวิตธรรมดาเราได้รับผลกระทบ 100% โดยที่ระดับน้ำสูงถึงอก บางจุดระดับเอว และเมื่อประมาณมูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท เพราะต้องมีการรีโนเวทพื้น ผนัง เครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมด เนื่องจากน้ำมาเร็วอย่างมาก แม้จะยกของขึ้นไปบางส่วนแล้ว แต่ช่วงสายน้ำมาเร็วสูงกว่า 2 เมตร ทำให้เราต้องตัดสินใจอพยพพนักงานออกจากพื้นที่

“เราปิดปรับปรุงร้านประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งใช้งบในการฟื้นฟูจำนวนมาก และกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 แต่กระนั้นยอดขายและนักท่องเที่ยวไม่กลับมาดังเดิม โดยหายไปประมาณ 60-70% เพราะช่วงแรกๆ พยากรณ์อากาศยังไม่แน่นอน ยังคงมีพายุและฝนจากพม่าที่มีผลกระทบต่อแม่น้ำกก”

ดังนั้น หากทางจังหวัดเชียงราย หน่วยงานภาครัฐ ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และ Big Cleaning ทั้งจังหวัด พร้อมทั้งโปรโมทว่าเชียงรายกลับมาเปิดให้บริการปกติแล้ว ไม่มีขยะ ไม่มีน้ำท่วม อีกทั้งโปรโมชั่นสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวทั้งฝั่งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ จะทำให้เชียงรายกลับมาสดใสอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวก็จะวางใจได้และมาเยือนเชียงรายเหมือนเดิม

เสียงจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมเชียงรายในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า “นักท่องเที่ยว” และ “มาตรการสนับสนุน” ที่เปรียบเสมือน “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” นับเป็น “ความหวัง” ของบรรดาผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเชียงรายทั้งสิ้น ที่จะทำให้ยอดขายและการเข้าพักกลับมาเป็นปกติดังเดิม ซึ่งล้วนแต่ต้องอาศัยกระบอกเสียงที่จะส่งออกไปว่า “เชียงรายเที่ยวได้แล้วนะเจ้า”

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแคมเปญ “เที่ยวไทย ไปกันต่อ” ที่ “ไทยรัฐ กรุ๊ป” ได้จับมือกับ ททท. เพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ว่าในแต่ละจังหวัดสามารถกลับมาท่องเที่ยวได้เหมือนเดิม อย่างเช่น “เชียงราย” พร้อมทั้งเป็นแรงสำคัญในการฟื้นฟูเมืองท่องเที่ยวที่พบเจอกับอุทกภัย ผลักดันรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก ผ่านทุกช่องทางของ “ไทยรัฐ”