“การบินไทย” บุกเปิดเส้นทางบินทั่วโลก เสิร์ฟ “คาเวียร์-สตรีทฟู้ด” มัดใจผู้โดยสาร

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“การบินไทย” บุกเปิดเส้นทางบินทั่วโลก เสิร์ฟ “คาเวียร์-สตรีทฟู้ด” มัดใจผู้โดยสาร

Date Time: 10 ต.ค. 2567 08:45 น.

Summary

  • “การบินไทย” เดินเครื่องบุกเปิดเส้นทางบินใหม่ทั่วโลกรับผู้โดยสารที่โหยหาการเดินทาง คุยลั่น! เส้นทางบินยุโรปยอดจองเกิน 80% ลุยปรับเปลี่ยนโฉมเครื่องบิน คัดเมนูสุดพิเศษขึ้นเสิร์ฟผู้โดยสารทุกชั้น “คาเวียร์ ไวน์” จากอิตาลี พร้อมยก “Streets to Sky” ร้านดังในตำนานเสิร์ฟในชั้นประหยัด มัดใจผู้โดยสาร

Latest

HSBC ชี้เศรษฐกิจไทยโตกว่าที่คิด หลังรัฐเร่งลงทุน กระตุ้นบริโภค ต่างชาติเชื่อมั่น จ่อลงทุนไทยเพิ่ม

“การบินไทย” เดินเครื่องบุกเปิดเส้นทางบินใหม่ทั่วโลกรับผู้โดยสารที่โหยหาการเดินทาง คุยลั่น! เส้นทางบินยุโรปยอดจองเกิน 80% ลุยปรับเปลี่ยนโฉมเครื่องบิน คัดเมนูสุดพิเศษขึ้นเสิร์ฟผู้โดยสารทุกชั้น “คาเวียร์ ไวน์” จากอิตาลี พร้อมยก “Streets to Sky” ร้านดังในตำนานเสิร์ฟในชั้นประหยัด มัดใจผู้โดยสาร

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่การบินไทยได้เข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการมากว่า 4 ปี และมีเป้าหมายที่จะนำหุ้นการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เดือน มิ.ย.68 ขณะที่สถานการณ์ของอุตสาหกรรมการบินในปัจจุบันมีการเติบโตและแข่งขันกันสูงนั้น

บริษัทจึงได้เตรียมพร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดและวางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่จะทำให้การบินไทยสู้กับสายการบินอื่นๆและก้าวไปสู่เส้นทางการเติบโตครั้งใหม่อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Fly for The New Pride” สู่ขอบฟ้าใหม่แห่งความภูมิใจ ใน 5 ด้าน คือ 1.เสริมสร้างเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุม มุ่งเน้นเชื่อมต่อเที่ยวบิน 2.พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสาร 3.เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อแข่งขัน สร้างกำไร 4.เพิ่มช่องทางรายได้ใหม่ ลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจการบินเพียงอย่างเดียว และ 5.มุ่งเน้นเติบโตอย่างยั่งยืน

“นอกจากปัจจัยทั้ง 5 ด้าน การบินไทยยังได้ประกาศยุทธศาสตร์ให้ “กรุงเทพมหานคร” เป็นศูนย์กลางทางการบิน หรือฮับภูมิภาค โดยการบินไทยจะเป็นตัวสร้างเครือข่ายเส้นทางบินไปยังทั่วโลก จากเดิมที่ไทยเป็นเพียงจุดหมายปลายทาง หรือบินจากจุดหนึ่งไปยังจุดที่สองเท่านั้น การทำการบินจะเปลี่ยนไป ด้วยการขยายจุดบินเชื่อมต่อจากจุดหนึ่งไปจุดที่สองและจุดที่สาม ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้โดยสาร การบินไทยก็สร้างรายได้มากขึ้น จนเป็นยุทธศาสตร์หลักของการบินไทยในอนาคต จากปัจจุบันการบินไทยมีจุดบิน 62 จุด 27 ประเทศ 803 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ก็จะเพิ่มขึ้น”

เดินหน้าปรับ–เปลี่ยนโฉมเครื่องบินทั้งฝูง

ขณะเดียวกัน ในส่วนของการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องบิน อุปกรณ์ และการบริการ ได้เตรียมแผนด้วยการตกแต่งภายในเครื่องบิน B777-300 ER จำนวน 14 ลำ ให้มี 3 ชั้นบริการ คือ เป็นชั้นประหยัด ชั้นพรีเมียมประหยัด และชั้นธุรกิจ ขณะที่เครื่องบิน B 787 จำนวน 30 ลำ มี 2 ชั้น คือ ชั้นประหยัด และชั้นธุรกิจ ปรับปรุงเก้าอี้ใหม่ให้กว้าง นั่งสบาย มีไวไฟ และเชื่อมบลูทูธได้ ส่วนทีวีอยู่ระหว่างเลือกขนาดหน้าจอระหว่าง 21 นิ้วหรือ 24 นิ้ว

ส่วนเครื่องบิน A320 เครื่องบินไทยสไมล์เดิม 20 ลำ จะนำร่องในเดือน พ.ย.นี้ เริ่มปรับปรุงเก้าอี้ในชั้นธุรกิจให้ปรับเอียงได้เป็นลำแรก และจะทยอยปรับจนถึงลำสุดท้ายในเดือน พ.ค.68 ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์การบินไทยดีขึ้น ปรับปรุงระบบสาระบันเทิงของเครื่องบิน ในส่วนของ Streaming ให้ผู้โดยสารดูหนังฟังเพลงได้ด้วยอุปกรณ์ตัวเอง

นอกจากนั้น ในปลายปี 68 จะมีเครื่องบิน A321 รุ่นใหม่ เก้าอี้ในชั้นธุรกิจจะสามารถปรับนอนราบได้ ซึ่งจะตอบสนองการเดินทางในระยะไกล เช่น อินเดีย จีนตอนใต้ ญี่ปุ่นตอนใต้ เกาหลี มะนิลา ไทเป ฮ่องกง จึงพูดได้เลยว่าในอดีตการบินไทยไม่เคยมีฝูงบินที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในเครื่องบินแบบเดียวกันจำนวนมากขนาดนี้

ส่วนแผนการจัดหาเครื่องบิน ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินประจำฝูงที่ 77 ลำ และในแผนระยะยาวในปี 72 การบินไทยจะมีเครื่องบินรวม 143 ลำ แบ่งเป็น ลำตัวกว้าง 91 ลำ และลำตัวแคบ 52 ลำ และในปี 76 จะมีเครื่องบินเพิ่มรวมเป็น 150 ลำ แบ่งเป็น ลำตัวกว้าง 98 ลำ และลำตัวแคบ 52 ลำ ซึ่งสะท้อนถึงการขยายฝูงบินลำตัวกว้างเพิ่มขึ้น เตรียมพร้อมในการแข่งขันของธุรกิจตลอดระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้า

เสิร์ฟเมนู “สตรีทฟู้ด” ร้านดังชั้นประหยัด

นายชายกล่าวต่อว่า ในส่วนของอาหาร การบินไทยได้เปิดตัวโครงการ “Streets to Sky” นำสตรีทฟู้ดไทยขึ้นไปเสิร์ฟบนเครื่องบินของการบินไทย โดยได้เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือน ส.ค.67 ที่ผ่านมา บนเที่ยวบินชั้นประหยัด ในเส้นทางระหว่างประเทศทุกเที่ยวบินที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่อาหารไทยรสดั้งเดิม และสนับสนุนให้อาหารไทยกลายเป็น Soft Power ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก

“อาหารสตรีทฟู้ดที่ขึ้นไปเสิร์ฟบนเครื่องบิน จะเน้นอาหารที่นิยมของคนไทยและต่างชาติ มีเอกลักษณ์ไทย และปรับเปลี่ยนเมนูทุกๆ 2 เดือน เพื่อสร้างความหลากหลาย รวมทั้งมีอาหารที่ขึ้นเสิร์ฟพิเศษ 4 เมนู ได้แก่ เดือน ส.ค.ข้าวกะเพราไก่ ไข่ดาว เมนูจากเชฟตุ๊กตา บ้านยี่สาร, ข้าวกับมัสมั่นไก่ เมนูจากเชฟตุ๊กตา บ้านยี่สาร, โกยซีหมี่ไก่ เมนูจากร้านน่ำเทียน, ส่วนเดือน ต.ค.จะเป็นข้าวซอยไก่ เมนูจากร้านลำดวนฟ้าฮ่าม จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับเมนูของหวาน การบินไทยได้ร่วมกับ ร้าน “After You” เสิร์ฟขนมปังในชั้นประหยัด เส้นทางขาออกภายในประเทศ และระหว่างประเทศสู่ประเทศจีน ญี่ปุ่น และกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) โดยจะเริ่มเสิร์ฟขนมปังเนยโสดชาไทยโบราณ ในเดือน ต.ค.67 ตามด้วยขนมปังเปียกปูนกะทิโสด ในเดือน พ.ย. ขนมปังหม้อแกงเผือก เดือน ธ.ค. และเดือน ม.ค.68 จะเป็นขนมปังเนยโสดน้ำตาลโตนด เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาการเสิร์ฟอาหารบนเครื่องจะเน้นที่ชั้นธุรกิจและพรีเมียมเป็นหลักแต่ครั้งนี้ได้ขยายไปยังชั้นประหยัดด้วย

กลับมาบุกตลาดเปิดเส้นทางบินทั่วโลก

ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศในชั้นหนึ่ง (เฟิสต์คลาส) การบินไทยจะเสิร์ฟไวน์ชั้นดีจากอิตาลี และ Caviar จากฟาร์มคาเวียร์จาเวรี ซึ่งเป็นผู้ผลิตคาเวียร์ระดับโลกที่มีความพิเศษ เนื่องจากมีฟาร์มเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนเอง และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 จะแจกกระเป๋าผ้าจาก “นารายา” สำหรับชั้นประหยัด เฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศ เส้นทางระยะกลางและเส้นทางไกล ได้แก่ อิสตันบูล สตอกโฮม ปารีส ออสโล และก่อนหน้านี้ ได้มีการคัดสรรโปรดักส์ไทยชื่อดังอย่าง Jim Thompson ออกแบบกระเป๋า Amenities Kit ใหม่ สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ตั้งแต่ปลายปี 66 และสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ยังมีผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ La Mer สุดพิเศษ

นายชายกล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการให้บริการการบินครอบคลุมทั่วโลก การบินไทยได้กลับมาทำการบินใหม่ใน 2 เส้นทางบินตรง มิลาน สาธารณรัฐอิตาลี และออสโล ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งการเปิดเส้นทางบินนี้จะรองรับปริมาณการเดินทางของผู้โดยสาร และเชื่อมต่อการเดินทางจากประเทศไทยและประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไปเมืองหลักอื่นๆในยุโรปได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ ด้วยเครือข่ายพันธมิตรการบินสตาร์อัลไลแอนซ์

“ตลาดยุโรปได้รับการตอบรับอย่างดี ดูจากการจองล่วงหน้าในแทบจะทุกรูทที่อัตราการบรรทุกปริมาณผู้โดยสารจะไม่ต่ำกว่า 80% และในเส้นทางมิลานถือว่าดีมาก ทั้งขาไปและขากลับอัตราการบรรทุกไม่ต่ำกว่า 85% มียอดจองล่วงหน้าต่อเนื่อง มั่นใจว่าเส้นทางนี้จะทำตลาดได้ดี และกลับมาบินในเส้นทางที่เคยบินมาก่อนได้ในอนาคต”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ