สนค.ปรับเป้าเงินเฟ้อปี  2567 ขยายตัว 0.2-0.8%

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สนค.ปรับเป้าเงินเฟ้อปี 2567 ขยายตัว 0.2-0.8%

Date Time: 8 ต.ค. 2567 10:44 น.

Summary

  • สนค.ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2567 ใหม่ เป็นเพิ่ม 0.2-0.8%  จากเดิม 0.0-1.0% หลังคาดเงินเฟ้อปลายปีส่อพุ่งจากน้ำท่วม ดันราคาผักสดเพิ่ม และราคาเพดานดีเซล 33 บาทสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ราคาน้ำมันโลกที่ส่อต่ำลง และบาทแข็ง ช่วยฉุดไม่ให้สูงขึ้นมาก

Latest

กว่า 3 ทศวรรษ ส่วนแบ่งตลาดโลก ไม่เคยขยับ “ส่งออกไทย” ส่อแข่งยาก หากไม่พัฒนา!

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อไทยปี 2567 ใหม่ เป็นคาดขยายตัว 0.2-0.8% จากเดิม 0.0-1.0% แต่ยังมีค่ากลางเท่าเดิมที่ 0.5% เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยใหม่เป็นขยายตัว 2.3-2.8% จากเดิม 2-3%, ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มต่ำกว่าปีก่อนหน้า โดยไตรมาส 4 ปี 66 เฉลี่ยสูงกว่า 80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล แต่ขณะนี้ราว 70 เหรียญฯ/บาร์เรล และค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ 34.5-35.5 บาท/เหรียญสหรัฐฯ จากเดิมกว่า 36 บาท

สาเหตุที่ต้องปรับคาดการณ์ใหม่ เพราะคาดว่า เงินเฟ้อเดือนต.ค.2567 จะสูงขึ้นมาที่ 1.25% และไตรมาส 4 ปีนี้จะสูงถึง 1.49% เทียบไตรมาสเดียวกันปี 2566 เพราะฝนตกหนักและน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผักสดสูงขึ้น รวมถึงสินค้าทำความสะอาดอาจสูงขึ้นด้วย แต่จะเป็นผลกระทบระยะสั้น, ราคาน้ำมันดีเซลที่กำหนดเพดานไม่เกินลิตรละ 33 บาทนั้น สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าและบริการท่องเที่ยวมีแนวโน้มสูงขึ้น

“แม้ปรับคาดการณ์กรอบล่างขึ้น จาก 0.0% เป็น 0.2% แต่กรอบบนก็ลดลงจาก 1.0% เป็น 0.8% เพราะมีปัจจัยที่คาดจะทำให้เงินเฟ้อลดลงได้ คือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไตรมาส 4 มีแนวโน้มต่ำกว่าปีก่อน ทำให้ราคาแก๊สโซฮอล์ในประเทศลดลง เงินบาทแข็งค่าทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าลดลง โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีสัดส่วนในตะกร้าเงินเฟ้อสูง และคาดว่าห้างค้าส่ง ค้าปลีกรายใหญ่ จะจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าต่อเนื่อง หลังรัฐได้จ่ายเงินสด 10,000 บาทให้กลุ่มเปราะบางไปแล้ว”

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนก.ย.67 อยู่ที่ 108.68 เมื่อเทียบกับดัชนีเดือนก.ย.66 ที่ 108.02 ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 0.61% เพราะราคาน้ำมันดีเซลสูงกว่าเดือนก.ย.66 รวมถึงผักสดบางชนิดสูงขึ้นเพราะพื้นที่เพาะปลูกเสียหายจากน้ำท่วม ขณะที่เมื่อเทียบเดือนส.ค 67 ลดลง 0.10% จากการลดลงของราคาแก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซินเป็นสำคัญ และเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปีนี้เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 0.20% 

สำหรับผลการใช้เงิน 10,000 บาท จากการสำรวจร้านค้าทั่วประเทศ 133 ร้านวันที่ 1-2 ต.ค.67 ทั้งร้านข้าวสาร ร้านเนื้อหมู ร้านไข่ไก่ ร้านไก่สด ร้านผลไม้ ร้านขายของชำนั้น พบว่า ทุกร้านมียอดขายเพิ่มขึ้นเกินกว่า 50% แต่ราคาสินค้าไม่ได้ปรับขึ้น ชี้ให้เห็นว่า เงิน 10,000 บาท ทำให้เศรษฐกิจคึกคัก ประชาชนซื้อสินค้าจำเป็นทันที แต่ไม่มีผลทำให้ราคาสินค้าปรับขึ้น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ