“ออมสิน” พักหนี้ 1.1 แสนราย น้ำท่วม 33 จังหวัดเสียหาย 2.9 หมื่นล้าน

“หอการค้าไทย” ชี้น้ำท่วมเสียหายแล้ว 2.9 หมื่นล้านบาท เสนอรัฐจัดทำแผนบริหารน้ำอย่างจริงจัง ลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ “ออมสิน “ประกาศพักหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน จำนวน 110,000 บัญชี “กนอ.” เฝ้าระวัง 68 นิคมฯทั่วประเทศ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า น้ำท่วมที่ขยายวงกว้างไปยัง 33 จังหวัด ทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งมีความเสี่ยงมีอีกหลายจังหวัดอาจเกิดน้ำท่วมได้อีก ประเมินว่าเกิดความเสียหายแล้ว 29,845 ล้านบาท หรือ 0.17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากความเสียหายของพื้นที่การเกษตร 1,166,992 ไร่ พื้นที่อื่นๆ 1,826,812 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายภาคเกษตร 24,553 ล้านบาท ประมาณ 82.3% ของความเสียหายทั้งหมด ภาคบริการ 5,121 ล้านบาท ส่วนภาคอุตสาหกรรม 171 ล้านบาท ถือว่าน้อยสุด จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และมูลค่าความเสียหายมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ เชียงราย 6,412 ล้านบาท รองลงมาคือพะเยา 3,292 ล้านบาท สุโขทัย 3,042 ล้านบาท ตามลำดับ รัฐบาลควรเร่งจัดทำแผนเชิงป้องกันที่ชัดเจนไว้ล่วงหน้า เพราะมีแนวโน้มจะเกิดฝนตกและน้ำท่วมได้อีกหลายจังหวัด เพื่อช่วยลดผลกระทบและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและเศรษฐกิจ

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยเห็นว่า ไทยควรวางแผนการบริหารจัดการน้ำเป็นระบบ โดยได้จัดทำข้อเสนอแนะใน 6 ประเด็นสำคัญ อาทิ ศึกษาปัญหาอุปสรรคด้านการบริหารจัดการน้ำในส่วนภูมิภาค เพื่อสะท้อนแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่อย่างครอบคลุม, จัดตั้งวอร์รูมของรัฐบาลเพื่อสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนการคาดการณ์ การแจ้งเตือน เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในการป้องกันภัยพิบัติ รวมถึงเปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุนกับรัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ด้วยการพักหนี้อัตโนมัติ-พักจ่ายเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้ออมสิน 110,000 บัญชี คิดเป็นเงินต้น 43,000 ล้านบาท ขณะที่ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ สามารถยื่นขอสินเชื่อฉุกเฉิน ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10,000 บาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กรมทางหลวงชนบทได้ติดตั้งป้ายเตือนสัญญาณไฟ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และรายงานให้ประชาชนทราบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัญจร ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ซ่อมแซมทางรถไฟสายเหนือ จนสามารถกลับมาเปิดเดินรถได้ตามปกติ

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ รักษาการผู้ว่า การการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ได้ทดสอบระบบระบายน้ำ ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเข้มข้น เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรณีที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง (Rain Bomb) ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบระบายน้ำและ ได้กำชับไปยังนิคมอุตสาหกรรม 68 แห่ง ทั่วประเทศให้เฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะนิคมฯที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ต้องเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด และเตรียมพร้อมสำหรับกรณีเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่