คมนาคมสร้างโอกาสคนไทย “สุริยะ” ลุยเร่ง “ทางคู่-ไฮสปีด-รถไฟฟ้า 20 บาท”

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คมนาคมสร้างโอกาสคนไทย “สุริยะ” ลุยเร่ง “ทางคู่-ไฮสปีด-รถไฟฟ้า 20 บาท”

Date Time: 19 ก.ย. 2567 08:45 น.

Summary

  • สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เข้าโหมดเดินหน้าลุยโปรเจกต์ทางคู่–ไฮสปีด ไทยจีน–รถไฟฟ้า 20 บาท–ซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า ส่วนถนนพระราม 2 ในตำนานขอปิดจบสร้างเสร็จให้ประชาชน-รถ วิ่งฉิวพร้อมใช้ในยุคนี้

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

“สุริยะ” เข้าโหมดเดินหน้าลุยโปรเจกต์ทางคู่-ไฮสปีด ไทยจีน-รถไฟฟ้า 20 บาท-ซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า ส่วนถนนพระราม 2 ในตำนานขอปิดจบสร้างเสร็จให้ประชาชน-รถ วิ่งฉิวพร้อมใช้ในยุคนี้! มั่นใจเดินหน้าสำเร็จจะสร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศไทย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเร่งรัดจัดทำนโยบายต่างๆ เพื่อให้ทุกโครงการสำเร็จลุล่วงตามแผนที่วางไว้ ภายใต้นโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และพัฒนาให้บริการตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างโอกาสและการเข้าถึงมุ่งเน้นประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ สามารถผลักดันให้การคมนาคมของประเทศ “สะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล” ลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้อย่างยั่งยืน

ซื้อคืนรถไฟฟ้า-เร่งค่าตั๋ว 20 บาท

นายสุริยะกล่าวว่า โครงการ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ถือเป็น 1 ในโปรเจกต์ที่จะเข้าสู่กระบวนการเร่งรัดให้รถไฟฟ้าทุกสายทุกสีเข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างโอกาสให้กับประชาชนเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว ด้วยต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง รวมถึงแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในกรุง เทพฯ โดยได้จัดทำแผนต่างๆ เพื่อเร่งให้ประสบความสำเร็จตามแผนที่วางไว้ คือ ภายในเดือน ก.ย.68 โดยล่าสุดได้อยู่ระหว่างการผลักดันให้ “พ.ร.บ.บริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และ พ.ร.บ.ราง” ผ่านสภาฯและมีผลบังคับใช้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ในปี 68 เป็นต้นไป ซึ่งก็จะทำให้รถไฟฟ้าสีอื่นๆที่จะเปิดเพิ่มจะต้องเข้าร่วมเงื่อนไข พ.ร.บ.ที่จัดทำใหม่ทันที หมายถึงเข้าร่วมโครงการ รถไฟฟ้า 20 บาท โดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ แม้ว่าการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้ามาที่ 20 บาทตลอดสายจะส่งผลต่อรายได้ที่ลดลง แต่ด้วยปริมาณของผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่ารายได้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะเดียวกันยังได้เตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศึกษาที่จะนำเงินจากกองทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน หรือกองทุนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บางส่วน รวมถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีผู้ขับรถส่วนตัวเข้าพื้นที่จราจรรถติด ซึ่งเงินจากส่วนต่างๆนี้จะนำมาอุดหนุนส่วนต่างของค่าโดยสาร

“ส่วนแนวทางการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อซื้อคืนสัมปทานการบริหารโครงการรถไฟฟ้าจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการคืนกลับมาเป็นของรัฐ และกำหนดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายนั้น ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ประสานกับกระทรวงการคลังผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยคลังจะรับหน้าที่ในการศึกษาถึงแนวทางในการจัดตั้งกองทุนและการระดมทุนต่างๆ”

ปิดจบตำนานถนนพระราม 2

นายสุริยะกล่าวถึง โครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 ที่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการก่อสร้างใน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก รับผิดชอบโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ขณะนี้ภาพรวมโครงการก้าวหน้า 80.92% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือน มิ.ย.67 ส่วนสะพานทศมราชัน หรือสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 นั้น ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จแล้ว จะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 67

2.โครงการก่อสร้างทางยกระดับ ทล. 35 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร (กม.) รับผิดชอบโดยกรมทางหลวง (ทล.) จะก่อสร้างเสร็จในเดือน พ.ย.67 และจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการชั่วคราว ระหว่างด่านพันท้ายนรสิงห์-ด่านมหาชัย ระยะทาง 4 กม.ในปลายปีนี้ ส่วนจุดเชื่อมต่อกับโครงการทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตกนั้น ได้เร่งรัดให้ก่อสร้างทางขึ้น-ลง เพื่อเปิดให้ใช้บริการ และ 3.โครงการมอเตอร์เวย์ (M82) สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.67 และเปิดเต็มรูปแบบตลอดเส้นทางภายในปี 70

“เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ตนเป็น รมว.คมนาคม ในขณะนั้น โครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ก็มีปัญหาก่อสร้างล่าช้า และมาในยุคนี้ ตนก็ได้เป็น รมว.อีกครั้ง จึงมั่นใจว่า โครงการทั้งหมดบริเวณถนนพระราม 2 จะต้องแล้วเสร็จปิดจบเปิดให้บริการได้ในเดือน มิ.ย.68 อย่างแน่นอน

เดินหน้ารถไฟทางคู่–ไทยจีน เฟส 2

ขณะเดียวกัน ยังจะเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในเรื่องโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังจากที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติให้นายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนจะไปมอบนโยบายให้ รฟท.เร่งเดินหน้าประกวดราคาหาเอกชนเข้ามาก่อสร้างในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท ประกอบด้วย ปากน้ำโพ-เด่นชัย 81,143 ล้านบาท ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 30,422 ล้านบาท สุราษฎร์ฯ-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา 66,270 ล้านบาท ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ 68,222 ล้านบาท, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 44,103 ล้านบาท และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 7,900 ล้านบาท รวมถึงก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงโคราช-หนองคาย 356 กม. รวมมูลค่าลงทุน 341,351.42 ล้านบาท ให้ได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 68 ขณะเดียวกันให้ รฟท.จัดหาเอกชนเข้ามารับสัมปทานเดินรถ รูปแบบ PPP ควบคู่ไปกับงานโยธา รวมทั้งต้องเร่งก่อสร้าง รถไฟชานเมืองสายสีแดงตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ ช่วงบางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก และบางซื่อ-หัวลำโพง โดยตนจะมีการหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในเรื่องของความจำเป็นเร่งจัดหาขบวนรถจำนวน 184 คันมาวิ่งให้บริการ

นอกจากนั้น ในปี 68 ประเทศไทย และประเทศจีน จะมีความสัมพันธ์ครบ 50 ปี ดังนั้น รฟท.จะต้องเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ทั้ง 2 ระยะให้แล้วเสร็จ เพื่อเชื่อมต่อ One Belt One Road อย่างเป็นรูปธรรม โดยระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 71 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอ ครม.อนุมัติโครงการ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 71 เช่นกัน.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ