ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อิทธิ ศิริลัทธยากร และอัครา พรหมเผ่า เข้ากระทรวงฯ มอบนโยบายข้าราชการวันนี้ (16 ก.ย.) โดยกล่าวว่า จะสานต่อจากนโยบายเดิม เน้นยกระดับสู่เกษตรทันสมัย ด้วยแนวคิด "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้"
การสานต่อ 9 นโยบายสำคัญ ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย มีดังนี้
1.เน้นการสร้างวิธีการทำงานสู่การปฏิบัติ ได้แก่
2.เร่งรัดการจัดที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร ขยายผลการยกระดับเอกสารสิทธิให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร รวมถึงพัฒนาช่องทางการเข้าถึงแหล่งทุน พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน และสามารถแปลงสินทรัพย์ในที่ดินให้เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนให้กับเกษตรกร
3.บริหารจัดการน้ำ ให้เกิดประสิทธิภาพเพื่อการเกษตร รวมถึงบริหารจัดการทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง และการเติมน้ำในเขื่อน
4.ยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ด้วยการต่อยอดโครงการ 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง สร้าง Brand หรือ Story ของจังหวัด/อำเภอ โดยเน้นการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมการสร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
5.ยกระดับศักยภาพของเกษตรกร/สถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็ง ได้แก่
6.จัดการทรัพยากรทางการเกษตร ได้แก่
7.รับมือกับภัยธรรมชาติ ต้องมีการวางแผนและมีมาตรการเชิงรุก เพื่อรับมือตั้งแต่การป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟู เมื่อประสบเหตุภัยแล้ง หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติทุกชนิด เช่น มาตรการเยียวยาและ/หรือมาตรการฟื้นฟูสำหรับเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น
8.สานต่อการทำสงครามสินค้าเกษตรเถื่อน โดยดำเนินการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้เข้มงวดยิ่งขึ้น รวมถึงการตรวจสอบสต็อกสินค้าเกษตรในประเทศ เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาผลผลิตในประเทศ และควบคุมการนำเข้า/ป้องกันการกักตุน/เก็งกำไร โดยเฉพาะช่วงก่อนที่ผลผลิตออกสู่ตลาด
9.อำนวยความสะดวกด้านการเกษตร ได้แก่
พร้อมกับระบุว่า นโยบายหลักๆ ของรัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรอยู่ 3 นโยบาย เช่น การส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรม, การแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของเกษตรกร จะยกระดับที่ดิน ส.ป.ก. สู่ "โฉนดเพื่อการเกษตร" เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปแปรเป็นทุนหมุนเวียนการทำเกษตรได้ และการบริหารจัดการน้ำ ที่ต้องเร่งแก้ไขทั้งในระยะสั้นและวางแผนแก้ปัญหาในระยะยาวด้วย โดยจะมีการหารือกับนายกรัฐมนตรี เตรียมตั้งศูนย์ดำเนินการแก้ปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ต้องเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรอยู่ประมาณ 29 ล้านคน มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ครัวเรือนละประมาณ 81,000 บาทเท่านั้น จึงตั้งเป้าต้องเพิ่มรายได้เกษตรกรให้ได้ปีละ 10%
สำหรับการแบ่งงานรับผิดชอบให้กับรัฐมนตรีช่วยฯ ได้การหารือบ้างแล้ว แต่ต้องรอเคาะความชัดเจนก่อน ก็จะเป็นการทำงานร่วมกัน
นอกจากนี้ รมว.เกษตรฯ ยังบอกว่า ส่วนตัวเองมีประสบการณ์ด้านการตลาดมาก่อน ก็จะเข้าไปดูเรื่องการตลาดนำการผลิตเป็นหลัก ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ก็คงจะนำเสนอเรื่องสถานการณ์น้ำเป็นหลัก เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และต้องเตรียมมาตรการในการเยียวยาด้วย ซึ่งได้สั่งให้ทุกกรมฯ ที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแล้ว
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney