ปั้นที่ดินเขาไม้แก้ว 1,400 ไร่ เป็นเมืองใหม่ชลบุรี "ทีปสุวรรณ" ผุดโครงการบ้านหรูหมื่นล้าน

เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังคงเป็นเป้าหมายของการพัฒนาเมกะโปรเจกต์ทั้งของภาครัฐและเอกชน แม้ยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสานต่อหรือรื้อใหม่

แต่เม็ดเงินของทุนต่างชาติที่เข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เป็นเครื่องยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพสูง ก่อเกิดการย้ายเข้ามาทำธุรกิจและอยู่อาศัยของคนไทยและคนต่างชาติอย่างหนาแน่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโซนแม่เหล็กอย่างเขตนวัตกรรมที่เรียกกันว่า EECi ของในจังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรี

นี่เองกลายเป็นโอกาสให้นักพัฒนาที่ดินผุดโครงการอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละรูปแบบมารองรับ ตั้งแต่สถานศึกษารูปแบบโรงเรียนนานาชาติ, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า เรื่อยไปจนถึงโครงการที่อยู่อาศัยทั้งเพื่อการลงทุนและบ้านหรูรองรับความต้องการของกลุ่มคนหัวกะทิ กำลังซื้อสูง และดีมานด์ของชาวต่างชาติ

สานต่ออาณาจักร Wisdom Valley 1,400 ไร่ เขาไม้แก้ว 

ล่าสุด เจ้าของที่ดินขนาดใหญ่ ตระกูลทีปสุวรรณ ประกาศเดินหน้าปั้นอาณาจักร Wisdom Valley บนทำเลศักยภาพ “เขาไม้แก้ว” จังหวัดชลบุรี กลางผืนป่าในหุบเขา บนพื้นที่กว่า 1,400 ไร่ เป็นเมืองใหม่ของคนระดับบน ด้วยการเติมเต็มโปรเจกต์โครงการที่อยู่อาศัย Wisdom First Residence บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี จำนวน 300 ยูนิต มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาทเพิ่มเติม

หลังจาก 7 ปีก่อนหน้า นำร่องที่ดิน 190 ไร่แรก พัฒนาส่วนที่ 1 เป็นโครงการโรงเรียนนานาชาติ Rugby School Thailand ซึ่งเป็น sister school แห่งแรกของ Rugby School จากประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งมากว่า 457 ปี โดยปัจจุบัน Rugby School มีนักเรียนศึกษาอยู่มากถึง 1,200 คน

ทั้งนี้ “ทยา ทีปสุวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสดอม พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ให้ข้อมูลว่า จากความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาของทั้งตระกูลศรีวิกรม์ และทีปสุวรรณ ทำให้โรงเรียนนานาชาติดังกล่าวเป็นที่สนใจ และมีครอบครัวชาวต่างชาติสนใจส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนอย่างต่อเนื่อง

ขณะ Wisdom Valley ตั้งอยู่บนสุดยอดทำเล เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและหุบเขา รวมถึงใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพเพียง 1.30 ชั่วโมง ใกล้กับทั้งสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอู่ตะเภา จึงมีศักยภาพสูง สามารถต่อยอดมาสู่โครงการที่อยู่อาศัยระดับคุณภาพได้ นำมาซึ่งการพัฒนาโครงการ Wisdom First Residence บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี คุณภาพสูง (High Quality) รวมทั้งสิ้น 300 ยูนิต มูลค่าทั้งโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยปี 2567 เปิดตัวเฟสแรกจำนวน 47 ยูนิต บนพื้นที่ 28 ไร่ และพื้นที่ Clubhouse อีกกว่า 22 ไร่ มูลค่ารวม 1,200 ล้านบาท

ผู้บริหารวิสดอมยังระบุว่า นอกจาก Wisdom First Residence จะตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งสะท้อนจากการสามารถปิดยอดขายเฟสแรก 13 หลังได้แล้ว เพียงในระยะเวลาแค่ 2 เดือน

โครงการดังกล่าวยังจะรองรับความต้องการของลูกค้าที่มองหาบ้านพักใกล้กรุงเทพ ใกล้สถานศึกษา และใกล้ชิดธรรมชาติ นอกจากนี้ ดีมานด์ตลาดบ้านระดับลักชัวรีในจังหวัดชลบุรีมีสัญญาณการขยายตัวต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เพราะลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูงที่มองหาอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพ

ไม่นับโอกาสจากดีมานด์ตลาดต่างชาติที่แนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะชลบุรีเป็นจังหวัดที่อยู่พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรจริงและประชากรแฝงอย่างต่อเนื่อง ที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว

“จริงอยู่ที่ตลาดอสังหาฯ ตอนนี้อยู่ในภาวะค่อนข้างซบเซา จากเศรษฐกิจและภาคท่องเที่ยวที่แม้จะฟื้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ 100% บนซัพพลายรอขายจำนวนมากของหลาย ๆ พื้นที่ แต่สำหรับชลบุรี เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ พบตลาดบ้านไฮเอนด์ยังมีดีมานด์ที่เติบโตจากซัพพลายมีไม่มาก”

ปัจจุบันการเติบโตของสังคมเมืองและเศรษฐกิจทำให้ชีวิตเร่งรีบ แข่งกับเวลา ซึ่งตอบโจทย์เป้าหมายด้านความมั่นคง แต่ในอีกด้านหนึ่งคุณภาพชีวิตที่สมดุลกับการใช้เวลากับครอบครัวอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเติมเต็มและชาร์จพลังให้ชีวิตอีกครั้ง

ทำให้วิสดอมนำมาเป็นแนวคิดในการพัฒนาโครงการ โดยระบุว่า โครงการ Wisdom First Residence จะบาลานซ์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ 3 ด้าน Live – Learn - Lifestyle เพื่อเป็นพื้นที่สร้างสมดุลให้ชีวิตแบบยั่งยืนอย่างแท้จริง

3 แบบบ้านหรู โครงการ Wisdom First Residence แพงสุดเกือบ 30 ล้าน

มีบ้านให้เลือก 3 แบบ คือ

• แบบ Zen ขนาด 315 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำสำหรับแขก พื้นที่จอดรถ 2 คัน พร้อมจุดชาร์จรถ EV ราคา 19.8 ล้านบาท
• แบบ Elegance ขนาด 415 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำสำหรับแขก พื้นที่จอดรถ 3 คัน พร้อมจุดชาร์จรถ EV ราคา 25.7 ล้านบาท
• แบบ Timeless ขนาด 511 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำสำหรับแขก 1 ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่จอดรถ 3 คัน พร้อมจุดชาร์จรถ EV ราคา 29.8 ล้านบาท

ขณะที่ดินที่เหลือ นอกจากบางส่วนถูกพัฒนาเป็นส่วนที่ 3 Lifestyle สร้างเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน Club House ที่ครบครันทั้ง Fitness, Sauna, Steam room, Kids Club สนามเทนนิส สนามเด็ก ลานสเก็ต Track ลู่ปั่นจักรยาน

บริษัทยังมีการพัฒนาเป็นวิลล่าสำหรับบุคลากรโรงเรียน และมีแผนพัฒนาโปรเจกต์อื่น ๆ ตามมาอีกมาก เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ พื้นที่ค้าปลีก พื้นที่รองรับกิจกรรมดนตรี งานเฟสติวัล ภายใต้ให้กลายเป็นเมืองใหม่แห่งคุณภาพที่ยั่งยืนอีกด้วย

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/business_marketing 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney