นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.นี้ จะทยอยเสนอโครงการลงทุนระบบรางที่มีความพร้อม และค้างจากการพิจารณาในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเก่า เข้าสู่การประชุม ครม.ชุดใหม่ให้แล้วเสร็จในปีนี้ เพื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการเปิดประกวดราคาและก่อสร้าง เพื่อผลักดันเป้าหมายให้ระบบขนส่งทางรางมีความสมบูรณ์ และสนับสนุนการเดินทาง การขนส่งสินค้า เป็นการขนส่งหลักของประเทศ
โครงการสำคัญๆที่จะเสนอเป็นแพ็กเกจระบบรางรวม 9 โครงการ มูลค่า 661,060 ล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ภายใต้กรอบความร่วมมือไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร (กม.) มูลค่า 341,351 ล้านบาท ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แล้ว เพื่อประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างในปีนี้ ส่วนแพ็กเกจระบบรถไฟทางคู่ ระยะ 2 ที่ค้างจากการเสนอเข้า ครม.ชุดก่อนหน้า มีความพร้อมด้านผลศึกษา รวม 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท อาทิ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท, ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. วงเงิน 30,422 ล้านบาท, ช่วงสุราษฎร์ ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา 321 กิโลเมตร วงเงิน 66,270 ล้านบาท
“หากผลักดันระบบรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ครบทั้งหมด จะสร้างขีดความสามารถให้ รฟท.ในการบริการจัดหาระบบราง การหารายได้ และช่วยลดเวลาเดินทางของประชาชนให้เชื่อมต่อทั่วประเทศได้เร็วขึ้น และตรงเวลา รวมทั้งจะเสนอโครงการส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้า ครม. อาทิ โครงการสายสีแดง ช่วงรังสิต-มธ.ศูนย์รังสิต วงเงิน 6,473 ล้านบาท, ส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 15,176 ล้าน”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่