“พิชัย นริพทะพันธุ์” จากนักธุรกิจอสังหาฯ-อัญมณี สู่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์คนใหม่

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“พิชัย นริพทะพันธุ์” จากนักธุรกิจอสังหาฯ-อัญมณี สู่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์คนใหม่

Date Time: 4 ก.ย. 2567 15:11 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • “พิชัย นริพทะพันธุ์” จากนักธุรกิจอสังหาฯ-อัญมณี สู่ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ของ ครม.อิ๊งค์ 1 นักการเมืองสายแข็งของพรรคเพื่อไทย ที่อยู่มาทุกยุคทุกสมัย กับภารกิจด้านเศรษฐกิจสุดหิน

Latest


เปิดโฉมหน้า และ รายชื่อออกมาแล้ว สำหรับ “คณะรัฐมนตรีชุดใหม่” ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิง “แพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งตามรายงานข่าว นายกฯ จะนำรัฐมนตรีในตำแหน่งต่างๆ ทั้งหมดเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ศุกร์นี้ 6 ก.ย. 2567 และนับหนึ่งการเป็นคณะรัฐมนตรีที่สมบูรณ์ ก่อนกำหนดแถลงนโยบายกับรัฐสภาในลำดับต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงรายชื่อรัฐมนตรีในทีมเศรษฐกิจ นอกจากมีบุคคลของพรรคเพื่อไทยเข้าไปนั่งในกระทรวงสำคัญอย่างเหนียวแน่น เช่น “พิชัย ชุณหวชิร” นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสานต่อผลักดันนโยบายเรือธงเงินดิจิทัลให้เกิดขึ้นจริงแล้ว

ครม.อิ๊งค์ 1 ยังปรากฏชื่อของ “พิชัย นริพทะพันธุ์” เข้ามานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับไม้ต่อจาก “ภูมิธรรม เวชชยชัย” อีกด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์ถือเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญอย่างมากในแพ้กัน ในห้วงที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไม่เต็มที่

การบริโภคภายในประเทศอ่อนแรงลง การลงทุนภาคเอกชนหดตัว สินค้าราคาแพง และการค้า การส่งออกเปราะบางตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทั้งระบบ ไม่นับปัญหา “สินค้าราคาถูก” จากประเทศจีนที่ทะลักเข้ามาแข่งขันกับผู้ประกอบการไทย สั่นคลอนการอยู่รอดของ SME ไทย

เปิดประวัติ “พิชัย นริพทะพันธุ์” รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์คนใหม่

สำหรับประวัติของ “พิชัย นริพทะพันธุ์” ในตำแหน่งสุดท้ายก่อนก้าวขึ้นมามีบทบาทเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่นั้น คือการนั่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” และยังดำรงตำแหน่งรองประธานยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรคเพื่อไทยอีกด้วย

แต่หากจะถามถึงภาพที่เราคุ้นเคยมากสุด คงเป็นครั้งที่ “พิชัย นริพทะพันธุ์” นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แนบข้างอดีตนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เมื่อครั้งกรุงเทพฯ เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 และรัฐบาลมีการใช้กระทรวงพลังงาน บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เป็นศูนย์ป้องกันและช่วยเหลือน้ำท่วม ขณะ “พิชัย” ยังเป็นภาพจำในหมู่สื่อมวลชน เจ้าฉายาสารพัดไอเดีย ก่อนหลุดออกจากตำแหน่งเมื่อปี 2555

หรือครั้งเมื่อเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช” โดยควบตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยมาหลายยุคหลายสมัย จึงนับว่าเป็นนักการเมืองสายแข็งอีกคนหนึ่งของเพื่อไทย

ครั้งหนึ่ง ระหว่างการดำรงตำแหน่งในฐานะทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ซีนดุเดือดสร้างชื่อของ “พิชัย” คือการดีเบตร่วมนักการเมืองต่างขั้ว อย่าง “วรงค์ เดชกิจวิกรม” ในรายการดัง "เจาะข่าวเด่น" ในหัวข้อระหว่างโครงการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท กับโครงการรับประกันราคาข้าวของพรรคประชาธิปัตย์

จากเจ้าของธุรกิจจิวเวอร์รี่ สู่ สนามการเมืองไทย

สำหรับ “พิชัย นริพทะพันธุ์” ปัจจุบันอายุ 63 ปี เกิดวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2504 เป็นบุตรของ “รณชัย” กับ “สุวรรณี นริพทะพันธุ์” โดยสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ และระดับปริญญาโท ด้านการบริหารธุรกิจ (MBA) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ก่อนเข้ามาสู่วงการการเมืองไทย พิชัยเคยเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอัญมณีและการส่งออก เจ้าของบริษัท เจมส์ควอลิตี้ จิวเวอร์รี่ จำกัด ต่อมาได้เข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และเป็นผู้สนับสนุนการเงินให้กับกลุ่มขอนแก่น พรรคเพื่อแผ่นดิน ก่อนโยกย้ายมาสนับสนุนพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย

ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับนางธัญยธรณ์ นริพทะพันธุ์ เป็นทันตแพทย์ มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ

  • พชร นริพทะพันธุ์
  • สาริศฐ์ นริพทะพันธุ์
  • นนท์นริฐนริพทะพันธุ์

ผ่าโจทย์ท้าทายกระทรวงพาณิชย์ ในยุคความเชื่อมั่น ผู้บริโภค-นักลงทุน หดตัว 

สำหรับโจทย์ของกระทรวงพาณิชย์ที่ท้าทายการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีคนใหม่ในระยะสั้น ภายใต้มุมมองของภาคเอกชน อย่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบไปด้วย

  • ทิศทางการส่งออกของไทย ที่แม้ล่าสุด เดือน ก.ค. ตัวเลขเติบโตถึง 15.2% แต่การเติบโตดังกล่าวยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้เป็นการเติบโตในวงกว้าง
  • การลงทุนภาคเอกชนหดตัวมากถึง 6.8% เหตุสำคัญจากกลุ่มยานยนต์ที่ยอดขายในประเทศลดลงถึง 24%
  • แนวโน้มความเชื่อมั่นชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฝั่งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
  • ปัญหาน้ำท่วมกดดันเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหายสำหรับช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนจะอยู่ที่ราว 6-8 พันล้านบาท หรือ 0.03-0.04% ของจีดีพี โดยภาคเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด

นอกจากนี้ หากย้อนไปดูนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยที่เคยหาเสียงไว้ ยังครอบคลุมไปถึงการเดินหน้าผลักดันเขตธุรกิจใหม่ เพื่อเป้าหมายให้เงินจะสะพัดในท้องถิ่น เพิ่มการขยายตัวของตลาดแรงงานในจังหวัดต่างๆ

โดยเป้าหมายสร้างเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่ง เป็นพื้นที่นำร่อง ประกอบไปด้วย กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ ผ่านกุญแจ 3 ดอก

  • กุญแจดอกที่ 1 “กฎหมายธุรกิจชุดใหม่” เพื่อเป็นการปลดล็อกปัญหาการทำธุรกิจของ Start-ups และ SMEs ในทุกมิติ รวมถึงดึงเงินนักลงทุนจากต่างชาติ เข้าแก้ไขปัญหาด้านใบอนุญาตต่างๆ ปัญหาแรงงาน การนำเข้าส่งออก และการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
  • กุญแจดอกที่ 2 “สิทธิประโยชน์ใหม่” ให้สิทธิในการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีนำเข้า จะไม่แพ้ที่ใดในโลก
  • กุญแจดอกที่ 3 “ระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่” โดยการสร้างสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ระบบการศึกษาและการผลิตคนทำงานใหม่ ระบบธนาคารใหม่ เพื่อผลักดันให้ภาคเอกชนขับเคลื่อนได้ ภายใต้ภาพฝันสำคัญของพรรคเพื่อไทยว่า คนไทยจะไม่จนอีกต่อไป!

Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์